แม้การบาดเจ็บที่ศีรษะจะดูเหมือนไม่รุนแรง แต่ในความเป็นจริง ผู้ป่วยบางรายกลับมีอาการไม่หายภายในระยะเวลาอันสั้น ล่าสุดงานวิจัยจากวารสารทางการแพทย์ JAMA Network Open พบว่า ผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บสมองเล็กน้อย (ที่เรียกทั่วไปว่า “สมองกระทบกระเทือน”) มีเกือบ หนึ่งในสาม ที่อาการยังคงอยู่แม้ผ่านไปแล้วถึง 1 เดือน
🔍 การศึกษาครั้งใหญ่ในผู้ป่วยกว่า 800 ราย
งานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “HeadSMART II” ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลผู้ใหญ่จำนวน 803 คน ที่เข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉินภายใน 4 วันหลังจากได้รับบาดเจ็บศีรษะ โดยผู้ป่วยทั้งหมดมีอาการระดับ “สมองกระทบกระเทือนเล็กน้อย” (ระดับความรู้สติอยู่ในเกณฑ์ปกติ)
เมื่อติดตามผลหลังจากผ่านไป 30 วัน นักวิจัยพบว่า ร้อยละ 29.3 ของผู้ป่วยยังคงมีอาการต่อเนื่อง เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย และมีปัญหาด้านการจดจำหรือสมาธิ
⚠️ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับอาการไม่หายภายใน 30 วัน
จากการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด ทีมวิจัยพบปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยบางรายมีอาการคงอยู่ ได้แก่
- เพศหญิง – ผู้หญิงมีโอกาสที่อาการจะอยู่ต่อมากกว่าผู้ชายประมาณ 2 เท่า
- น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน – ผู้ที่มีดัชนีมวลกายสูง มีโอกาสที่อาการจะเรื้อรังมากขึ้น
- ลักษณะของการบาดเจ็บ – เช่น การล้มหัวกระแทก การเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือการถูกทำร้ายร่างกาย มีความเสี่ยงสูงกว่า
- มีประวัติไมเกรนหรือปวดศีรษะเรื้อรังมาก่อน – ทำให้สมองไวต่อการกระทบกระเทือนและฟื้นตัวได้ช้ากว่าคนทั่วไป
- มีภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวล – ปัญหาด้านอารมณ์และจิตใจมีผลต่อการฟื้นตัวของสมองอย่างมีนัยสำคัญ
- มีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย – เช่น แขนขาอ่อนแรงหรือพูดไม่ชัดในช่วงแรกของอาการ
- ต้องตรวจเอกซเรย์สมองหลายครั้งในระยะเริ่มต้น – มักสะท้อนว่ามีอาการซับซ้อนมากกว่า
👩⚕️ ทำไมผู้หญิงจึงเสี่ยงมากกว่า
นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า ผู้หญิงอาจมีความแตกต่างทางฮอร์โมนและโครงสร้างสมองบางส่วนที่ตอบสนองต่อแรงกระแทกต่างจากผู้ชาย นอกจากนี้ ปัจจัยทางสังคม เช่น ความเครียดสะสม หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอหลังบาดเจ็บ อาจทำให้อาการฟื้นตัวช้ากว่า
⚖️ น้ำหนักตัวและสุขภาพทั่วไปมีผลจริงหรือ?
น้ำหนักตัวที่มากเกินไปไม่เพียงส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือด แต่ยังมีผลต่อกระบวนการฟื้นฟูของสมองหลังการบาดเจ็บด้วย งานวิจัยชี้ว่าผู้ที่มีน้ำหนักเกินมีแนวโน้มจะมีอาการหลงเหลือนานกว่า เพราะมีการอักเสบในร่างกายมากกว่าคนทั่วไป
🧩 ประวัติโรคประจำตัวและสุขภาพจิตก็มีส่วน
ผู้ที่เคยมีไมเกรน ปวดศีรษะเรื้อรัง หรือปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล มักมีโอกาสฟื้นตัวช้ากว่า เพราะสมองของพวกเขาอยู่ในภาวะที่ “ไวต่อความเครียด” มากกว่าปกติ
ดังนั้น หลังได้รับบาดเจ็บ แม้อาการจะดูไม่รุนแรง แต่ถ้ามีอาการปวดศีรษะ เวียนหัว หรือมึนงงต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำ
🏥 สัญญาณเตือนที่ควรสังเกตหลังศีรษะกระแทก
- ปวดศีรษะมากขึ้นเรื่อย ๆ
- เวียนหัวหรือเสียการทรงตัว
- พูดไม่ชัด มองเห็นภาพซ้อน
- คลื่นไส้หรืออาเจียนซ้ำ ๆ
- มีอารมณ์เปลี่ยนแปลงหรือหงุดหงิดง่ายผิดปกติ
หากมีอาการเหล่านี้ภายใน 24–48 ชั่วโมง ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
💬 ข้อเสนอแนะจากทีมวิจัย
ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวควรได้รับ การติดตามอาการอย่างใกล้ชิดหลัง 1 เดือน เพื่อป้องกันการเกิดภาวะอาการเรื้อรัง และควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ด้านการพักผ่อน การออกกำลังกายเบา ๆ การลดความเครียด และการนอนหลับให้เพียงพอ
นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังเน้นว่า “การบาดเจ็บสมองเล็กน้อยไม่ควรถูกมองข้าม” เพราะถึงแม้จะไม่รุนแรงในตอนแรก แต่อาจกระทบต่อการทำงาน การเรียนรู้ และคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้
📋 บทสรุป
งานวิจัยนี้ตอกย้ำว่า “สมองกระทบกระเทือนเล็กน้อย” ไม่ได้หมายความว่าจะหายเองเสมอไป ปัจจัยอย่างเพศ น้ำหนักตัว ประวัติสุขภาพจิต และลักษณะของการบาดเจ็บ ล้วนมีผลต่อการฟื้นตัวของผู้ป่วย
การรู้เท่าทันอาการและเฝ้าระวังตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยให้แพทย์สามารถดูแลและป้องกันไม่ให้อาการกลายเป็นเรื้อรังได้
🩺 หมายเหตุสำคัญสำหรับผู้อ่านเว็บไซต์
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ทางสุขภาพและสรุปข้อมูลจากงานวิจัยทางการแพทย์ที่ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องสุขภาพสมองและการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น
ข้อมูลทั้งหมด ไม่ถือเป็นการวินิจฉัยโรคหรือคำแนะนำทางการแพทย์เฉพาะบุคคล ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ มึนงง หรือสงสัยว่าตนเองอาจได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควร ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและคำแนะนำการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ทั้งนี้ เว็บไซต์ไม่สนับสนุนให้ผู้อ่านตัดสินใจรักษาตนเองโดยอ้างอิงจากข้อมูลในบทความเพียงอย่างเดียว และไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับคำปรึกษาจากแพทย์
คำแนะนำเพิ่มเติม: หากเกิดอุบัติเหตุศีรษะกระแทกอย่างแรง หรือมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดหัวมาก อาเจียน ซึม พูดไม่ชัด หรือแขนขาอ่อนแรง ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินโดยเร็วที่สุด
🔗 แหล่งอ้างอิง
Peacock WF Jr, Kuehl D, Diaz-Arrastia R, et al.
Factors Associated With Persistent Symptoms Following Mild Traumatic Brain Injury.
JAMA Network Open. 2025;8(10):e2537729.
doi:10.1001/jamanetworkopen.2025.37729.
เผยแพร่โดย สมาคมการแพทย์อเมริกัน (American Medical Association)
อ่านต้นฉบับได้ที่นี่