
การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ส่งผลต่อภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตราการรอดชีวิตและการฟื้นตัวของผู้ป่วย การศึกษาล่าสุดที่เผยแพร่ใน JAMA Network Open วิเคราะห์ข้อมูลจาก 54 งานวิจัย และเมตา-วิเคราะห์ 24 งานวิจัย พบว่า การสูบบุหรี่ในช่วง 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดถึง 31% เมื่อเทียบกับผู้ที่เลิกสูบมานานกว่า 4 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังพบว่าคนที่ยังสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัดมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนมากกว่าผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ถึง 2.83 เท่า
ผลการศึกษา: การสูบบุหรี่และระยะเวลาการเลิกสูบ จากการศึกษาที่มีผู้ป่วยรวมกว่า 39,499 ราย มีการแบ่งกลุ่มผู้ป่วยออกเป็นผู้ที่ยังสูบบุหรี่ในช่วงก่อนผ่าตัด (ภายใน 4 สัปดาห์) และผู้ที่เลิกสูบมานานกว่า 4 สัปดาห์ ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าการสูบบุหรี่ในระยะใกล้เคียงกับการผ่าตัดสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่สูงขึ้น
เมื่อพิจารณาถึงช่วงเวลาที่หยุดสูบบุหรี่ นักวิจัยพบว่าไม่มีความแตกต่างที่มีนัยสำคัญระหว่างผู้ที่หยุดสูบบุหรี่ภายใน 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดกับผู้ที่หยุดสูบบุหรี่ในช่วง 2 สัปดาห์ถึง 3 เดือนก่อนการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม คนที่หยุดสูบบุหรี่นานกว่า 1 ปี มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่ำกว่าผู้ที่ยังสูบบุหรี่ภายใน 1 ปีที่ผ่านมา
ผลกระทบของการสูบบุหรี่ต่อภาวะแทรกซ้อน ภาวะแทรกซ้อนที่พบมากในผู้ที่สูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด ได้แก่
- ปัญหาทางเดินหายใจ เช่น ปอดแฟบ (atelectasis) และปอดอักเสบ (pneumonia)
- การติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
- การหายของแผลล่าช้าเนื่องจากการไหลเวียนของเลือดลดลง
- ภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ และลิ่มเลือดอุดตัน
ข้อจำกัดของการศึกษา แม้ว่าการศึกษานี้จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ยังมีข้อจำกัดบางประการ ได้แก่ การพึ่งพาข้อมูลจากการรายงานตัวเองของผู้ป่วยเกี่ยวกับสถานะการสูบบุหรี่ และความหลากหลายของวิธีการกำหนดระยะเวลาการเลิกสูบบุหรี่ในแต่ละงานวิจัย อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์โดยรวมยังคงยืนยันว่าการเลิกสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัดมีผลดีต่อการลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
ข้อเสนอแนะและแนวทางปฏิบัติ จากผลการศึกษานี้ แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ควรให้ความสำคัญกับการให้คำแนะนำและสนับสนุนให้ผู้ป่วยเลิกสูบบุหรี่โดยเร็วที่สุดก่อนการผ่าตัด โดยแนะนำแนวทางที่มีประสิทธิภาพ เช่น:
- การบำบัดพฤติกรรมร่วมกับการใช้ยา เช่น นิโคตินทดแทน หรือยาลดความอยากบุหรี่
- การสนับสนุนทางจิตใจและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลิกสูบบุหรี่
- การออกแบบโปรแกรมการเลิกบุหรี่เฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด
สรุป การเลิกสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัดมะเร็งเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดและช่วยเพิ่มโอกาสการฟื้นตัวของผู้ป่วย แม้ว่าการหยุดสูบในช่วงเวลาใกล้กับการผ่าตัดอาจไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างที่ชัดเจน แต่การเลิกสูบเป็นเวลานานขึ้นสามารถลดความเสี่ยงได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น การบูรณาการโปรแกรมช่วยเลิกบุหรี่เข้ากับกระบวนการดูแลผู้ป่วยมะเร็งจึงเป็นกลยุทธ์ที่ควรได้รับการส่งเสริมในวงการแพทย์.
Reference : JAMA Network Open Journal, 2025.