Posted on

สพฐ.ห้ามครูและบุคลากรนำรถราชการไปใช้ส่วนตัว

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามในหนังสือราชการถึงหัวหน้าส่วนราชการ และองค์กรในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อ กำชับให้ข้าราชการและบุคลากรปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการใช้รถราชการอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 มีรายงานข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัยร้ายแรงต่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่นำรถราชการไปใช้ส่วนตัว เช่น การเดินทางระหว่างบ้านพักกับที่ทำงาน และเบิกจ่ายค่าน้ำมันจากทางราชการ เสมือนว่าเป็นรถประจำตำแหน่ง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจึงมีคำสั่งให้หัวหน้าส่วนราชการและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการชี้แจง กำชับ และควบคุมดูแลบุคลากรในสังกัดให้ปฏิบัติตามระเบียบการใช้รถราชการอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันมิให้เกิดการกระทำผิดซ้ำ และรักษาความโปร่งใสในหน่วยงานราชการ.

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสาร

แหล่งที่มา : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ศธ.

Posted on

เปิดภาคเรียน 2568 ด้วยหลักสูตรใหม่ “เรียนดี มีความสุข” สร้างสมรรถนะผู้เรียนยุคใหม่

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เตรียมเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2568 ด้วยหลักสูตรใหม่สำหรับระดับปฐมวัยและประถมศึกษาตอนต้น โดยเปิดโอกาสให้โรงเรียนทั่วประเทศสมัครใจเข้าร่วมใช้งานจริงในภาคเรียนที่ 1 ที่จะถึงนี้ หวังยกระดับคุณภาพการศึกษาตั้งแต่ฐานราก สอดรับกับแนวคิด “เรียนดี มีความสุข” ของกระทรวงศึกษาธิการ

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามมติของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เมื่อปลายปี 2567 ได้เห็นชอบให้จัดทำ “หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2568” สำหรับเด็กอายุ 3–6 ปี และ “หลักสูตรประถมศึกษาตอนต้น (ป.1–ป.3) พ.ศ. 2568” เพื่อให้เหมาะสมกับพัฒนาการของผู้เรียนและรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่

การพัฒนาหลักสูตรครั้งนี้ใช้กระบวนการทางวิชาการอย่างเข้มข้น ตั้งแต่การวิจัย วิเคราะห์แนวโน้มต่างประเทศ พัฒนาหลักสูตรต้นแบบ ไปจนถึงการสังเคราะห์แนวปฏิบัติที่ดีจากโรงเรียนทั่วประเทศ โดยล่าสุดมีโรงเรียนจากทุกสังกัดเข้าร่วมแล้ว 4,440 แห่ง แบ่งเป็นกลุ่มวิจัยประเมินคุณภาพ 237 แห่ง และกลุ่มเครือข่ายใช้งานหลักสูตร 4,203 แห่ง

จุดเด่นของหลักสูตรใหม่:

  • ระดับปฐมวัย มุ่งเน้นการพัฒนาตามวัย เช่น ด้านอารมณ์ ร่างกาย สังคม และสติปัญญา
  • ระดับประถมต้น มุ่งให้เด็ก อ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น และเสริมทักษะพื้นฐานสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
  • การประเมินผลใช้แนวทางใหม่ แบ่งผลการเรียนรู้เป็น 4 ระดับ: เริ่มต้น – พัฒนา – ชำนาญ – เชี่ยวชาญ แทนการใช้เกรดแบบเดิม

สพฐ. เตรียมการสนับสนุนครบวงจร:

  • แหล่งเรียนรู้ออนไลน์: เว็บไซต์หลักสูตรใหม่
  • คลินิกวิชาการ เป็นที่ปรึกษาให้โรงเรียน
  • อบรมครู–ศึกษานิเทศก์ ทั่วประเทศ
  • นำเทคโนโลยี AI มาช่วยลดภาระครู ทั้งด้านการออกแบบหลักสูตรและการวัดผล เช่น การอบรม Gen AI