1. ตั้งเป้าว่าจะซื้อมาใช้งานอะไร?
ในที่นี้เราจะเสนอตัวเลือกเพียง 3 ตัว เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจ
A. ซื้อมาใช้งานเอกสารทั่วไปเล่นโซเชียลมีเดียได้และดูหนังฟังเพลงพร้อมกับตัดต่องานวีดีโอได้ในระดับดี
B. ซื้อมาเพื่อเล่นเกมส์โดยเฉพาะเน้นความแรงและเน้นกราฟฟิคหนักๆ หรือสายโหด
C. ซื้อมาใช้งานเอกสารในกลุ่ม Word,Excle,Powerpoint งานโซเชียลมีเดียทั่วไป เช่น Facebook,Line และสามารถเล่นเกมส์เบาๆได้ พร้อมกับราคาประหยัด
เมื่อเลือกประเภทของ Notebook ที่เหมาะกับการใช้งานของตนเองได้แล้ว ก็ไปพิจารณาข้อที่ 2
2. เลือกดูรุ่นของซีพียู
เลือกดูรุ่นของซีพียูว่าจะตรงกับการใช้งานที่เราตัดสินใจเลือกไปแล้วในข้อที่ 1 หรือไม่ ซึ่ง ซีพียู(CPU) คือ สมองกลที่เป็นส่วนสำคัญหลักของคอมพิวเตอร์ทุกประเภท(แอดมินจะพยายามไม่ใช้คำศัพท์) และจะได้อธิบายในลำดับต่อไปนี้
โดยปกติแล้วยี่ห้อของคอมพิวเตอร์จะแตกต่างจากยี่ห้อของซีพียู(CPU) พูดง่ายๆก็คือไม่ได้เป็นบริษัทเดียวกันนั่นเองแต่เป็นเพียงบริษัทที่เป็นคู่ค้ากัน หรือพูดแบบให้ชาวบ้านเข้าใจง่ายๆก็คือ บริษัท a ผลิตคอมพิวเตอร์มาขายแต่สั่งซื้อซีพียูจากบริษัท b มาประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์นั่นเอง ในที่นี้เราจะยกตัวอย่างยี่ห้อซีพียูที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในเรื่องของการระบายความร้อนได้ดียี่ห้อหนึ่งและในอดีตหลายปีที่ผ่านมาก็เป็นยี่ห้อแรกๆที่มีการพัฒนาจนกระทั่งได้รับการยอมรับจากผู้ใช้คอมพิวเตอร์ว่ามีการจัดการความร้อนได้ดี ไม่ค่อยพบปัญหาการทำงานสะดุดค้างหรือที่มักเรียกกันว่าเครื่องแฮ้งค์(Hang) ซึ่งปัจจุบันก็ได้กลายเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงไปแล้ว นั่นก็คือยี่ห้อ Intel (อินเทล)
เรามักจะพบเห็นตัวอักษรและรหัสต่างๆ เหล่านี้ ปรากฏอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆยี่ห้อ
รุ่นย่อย i3 คือ ซีพียูสมรรถนะปานกลาง
รุ่นย่อย i5 คือ ซีพียูที่มีสมรรถนะดี
รุ่นย่อย i7 คือ ซีพียูที่มีสมรรถนะสูง
ตัวเลข 12 คือ เลขรุ่นย่อยลงไปอีก(หรือเจนเนอเรชั่น) ณ ปัจจุบันคือปี 2023 รหัสนี้มีถึง 13 แล้ว
และ อักษร P ย่อมาจากเพอฟอร์มานซ์ (Performance) หมายถึง รหัสบอกสมรรถนะย่อยของซีพียูลงไปอีก ซึ่งรหัส P เป็นกลุ่มซีพียูที่เหมาะกับงานโซเชียลมีเดีย ดูหนังฟังเพลงและการตัดต่อวีดีโอได้ในระดับดีมาก หรืองานเอกสารทั่วไปก็ใช้งานได้อย่างเหลือเฟือ
ดังนั้น เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อ Notebook มาเพื่อใช้งานแบบไหน และพิจารณาเลขรหัสของซีพียูดังที่กล่าวมาแล้ว
เลือกประเภท A
เมื่อจะซื้อมาใช้งานเอกสารทั่วไปเล่นโซเชียลมีเดียได้และดูหนังฟังเพลงพร้อมกับตัดต่องานวีดีโอได้ในระดับดีถึงดีมาก ก็ควรเลือกรหัสของซีพียูเป็น i5 13xxx P หรือ i5 12xxx P เพราะสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพดีอีกด้วย
เลือกประเภท B
เมื่อจะซื้อมาเล่นเกมส์โดยเฉพาะก็ควรเลือกรหัสซีพียูเป็น i7 12xxx H หรือไม่ก็ i7 13xxx H ไปเลย H ( H หมายถึง High Performance คือ สมรรถนะสูงนั่นเอง)
เลือกประเภท C
เมื่อจะซื้อมาเพื่อเน้นใช้งานเอกสารในกลุ่ม Word,Excle,Powerpoint งานโซเชียลมีเดียทั่วไป เช่น Facebook,Line และสามารถเล่นเกมส์เบาๆได้ ก็ควรเลือกรหัสซีพียู i3 12xxx U หรือ i3 13xxx P ก็เพียงพอและเหลือเฟือ
คราวนี้เรามาดู ความหมายของรหัสตัวอักษร ตัวสุดท้ายว่ามีแบบใดบ้าง
1. U หมายถึง Ultra Low Voltage คือ ประหยัดพลังงานแต่มีสมรรถนะประมวลผลงานทั่วไปได้ดี เน้นเรื่องการประหยัดแบตเตอรี่ เน้นการพกพาเป็นหลักและสามารถเล่นเกมส์เบาๆได้
2. P หมายถึง Performance คือ ซีพียูที่มีสมรรถนะสูงกว่าแบบ U สามารถใช้งานได้หลากหลายแบบทั้งงานเอกสารในกลุ่ม Word,Excel,Powerpoint ได้ดี และโดยเฉพาะงานตัดต่อวีดีโอก็ทำได้ดี เน้นในด้านกราฟฟิคเป็นหลักหรือเน้นการใช้งานในกลุ่มสื่อภาพและเสียงหรือที่เรียกว่ามัลติมีเดีย
3. H หมายถึง Hight Performance เป็นตัวที่มีสมรรถนะสูงเพิ่มขึ้นจากแบบ P เหมาะกับงานที่ต้องใช้ CPU ประมวลผลหนักๆ และเหมาะกับการเล่นเกมส์หรือการใช้งานกราฟฟิคหนักๆ
4. HX หมายถึง Extreme Performance คือซีพียูสมรรถนะสูงกว่าแบบ P และ H และสามารถปรับขยายเพิ่มความเร็วได้หรือที่เรียกว่า “โอเว่อร์คล็อค” นั่นเอง (Overclock) ส่วนใหญ่ราคาค่อนข้างแพง เหมาะกับงานประมวลผลขั้นสูงมากๆ ที่นอกเหนือจากทุกกลุ่มที่กล่าวมา
3.ดูขนาดของ RAM หรือหน่วยความจำชั่วคราว
ถ้าหากจะซื้อมาเพื่อเล่นเกมส์เป็นหลักเน้นงานกราฟฟิค ตามแบบ B ก็ควรจะเป็น 32GB ขึ้นไป แต่ถ้าหากเน้นใช้งานตามแบบ A ก็ควรจะเป็น 8-16GB ก็เพียงพอ และถ้าหากจะใช้งานตามแบบ C ก็ควรจะเป็น RAM ที่มีขนาดตั้งแต่ 8GB ขึ้นไป ก็เพียงพอแล้ว
4. ควรมีการรับประกันตัวเครื่องอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป พร้อมการบริการหลังการขาย
เมื่อพิจารณาจากหัวข้อข้างต้นทั้งหมดแล้วก็คงจะพอตัดสินใจเลือกได้ว่า เราควรจะเลือกซื้อ Notebook แบบไหนและเหมาะกับการใช้งานของเราได้ดีที่สุด
Notebook แนะนำ
Lenovo Ideapad Gaming3 Gen Gen12 i5
