Posted on

โรคตับจากแอลกอฮอล์พุ่งสูงในสหรัฐฯ หลังโควิด-19: ผู้หญิง-คนหนุ่มสาวเผชิญความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

ในช่วงระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงหลังการระบาดของโรคโควิด-19 สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับวิกฤตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นคืออัตราการเสียชีวิตจาก โรคตับที่เกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์ (Alcohol-Associated Liver Disease หรือ ALD) ที่เพิ่มขึ้นเกือบ สองเท่า จากข้อมูลของงานวิจัยล่าสุดที่เผยแพร่ในวารสาร JAMA Network Open เมื่อเดือนมิถุนายน 2025

เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผลการศึกษาซึ่งอ้างอิงจากฐานข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) พบว่า ตั้งแต่ปี 1999 จนถึง 2022 มีผู้เสียชีวิตจาก ALD มากกว่า 430,000 ราย และอัตราการเสียชีวิตปรับตามอายุเพิ่มจาก 6.71 รายต่อประชากร 100,000 คน ในปี 1999 เป็น 12.53 ราย ในปี 2022

โดยเฉพาะในช่วง ปี 2018–2022 มีการเร่งตัวของอัตราการเสียชีวิตอย่างชัดเจน ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับพฤติกรรมการดื่มที่เปลี่ยนไปในช่วงโควิด-19

กลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

การศึกษาชี้ให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำของผลกระทบในกลุ่มประชากรต่าง ๆ ดังนี้:

  • ผู้หญิง: แม้อัตราการเสียชีวิตโดยรวมยังต่ำกว่าผู้ชาย แต่แนวโน้มเพิ่มขึ้นเร็วกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
  • คนหนุ่มสาวอายุ 25–44 ปี: พบว่าอัตราการเสียชีวิตจาก ALD เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าเป็นห่วงเนื่องจากเป็นกลุ่มวัยทำงาน
  • กลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันและอลาสกา (American Indian and Alaska Native): มีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความเชื่อมโยงกับโควิด-19

ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคแอลกอฮอล์อย่างชัดเจน เนื่องจากภาวะเครียดจากการล็อกดาวน์ การว่างงาน และการขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ซึ่งทำให้บางกลุ่มประชากรดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพตับในระยะยาว

เหตุใดผู้หญิงและคนหนุ่มสาวจึงเสี่ยงมากขึ้น?

งานวิจัยอธิบายว่า ผู้หญิงมีความไวต่อผลกระทบของแอลกอฮอล์มากกว่าผู้ชาย เนื่องจากร่างกายมีน้ำในร่างกายน้อยกว่า และเอนไซม์ที่ย่อยแอลกอฮอล์ในกระเพาะอาหารต่ำกว่า ทำให้แอลกอฮอล์เข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดได้มากกว่าเมื่อเทียบในปริมาณเท่ากัน

ในขณะเดียวกัน กลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานวัยหนุ่มสาวมีแนวโน้มเผชิญกับความเครียดสูง รวมถึงอิทธิพลจากวัฒนธรรมการดื่ม ทำให้เป็นกลุ่มที่เริ่มดื่มเร็วขึ้นและมีพฤติกรรมดื่มหนักในระยะยาว

ความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ

รายงานยังพบว่า กลุ่มเชื้อชาติน้อย เช่น ชนพื้นเมืองอเมริกัน เผชิญกับอุปสรรคในการเข้าถึงการรักษา เช่น ถูกปฏิเสธจากบัญชีรายชื่อปลูกถ่ายตับ และนโยบายสวัสดิการที่จำกัด ทำให้ผลกระทบจากโรค ALD ในกลุ่มนี้รุนแรงกว่ากลุ่มอื่น

ข้อเสนอจากนักวิจัย

เพื่อรับมือกับวิกฤตสุขภาพนี้ นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขเชิงนโยบายที่ควรดำเนินการเร่งด่วน ได้แก่:

  • ส่งเสริมการตรวจคัดกรองการใช้แอลกอฮอล์ในสถานพยาบาลทั่วไป
  • ปรับปรุงการเข้าถึงบริการบำบัดและเลิกดื่ม
  • ดำเนินนโยบายควบคุมแอลกอฮอล์ เช่น ภาษีและจำกัดชั่วโมงจำหน่าย
  • พัฒนาโปรแกรมการบำบัดที่เหมาะสมกับเพศ วัย และวัฒนธรรม

บทสรุป

อัตราการเสียชีวิตจากโรคตับที่เกิดจากแอลกอฮอล์ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล โดยเฉพาะหลังการระบาดของโควิด-19 และส่งผลกระทบอย่างไม่เท่าเทียมในแต่ละกลุ่มประชากร นี่คือสัญญาณเตือนให้ภาครัฐ สถานพยาบาล และสังคมโดยรวมหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาการบริโภคแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง และวางแผนการแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุม.

แหล่งอ้างอิง:

Pan CW, Zhang Z, Harjanto J, et al. Trends and Disparities in Alcohol-Associated Liver Disease Mortality in the US, 1999-2022. JAMA Network Open. 2025;8(6):e2514857. doi:10.1001/jamanetworkopen.2025.14857