Posted on

อาหารที่มีโพรแทสเซียมสูง: ประโยชน์มาก แต่ไม่ใช่ทุกคนกินได้

โพรแทสเซียม (Potassium) เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการในปริมาณมากในแต่ละวัน มีบทบาทสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต สมดุลของของเหลวในร่างกาย และการทำงานของกล้ามเนื้อ รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจ งานวิจัยหลายฉบับชี้ว่า การบริโภคโพรแทสเซียมในระดับที่เหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังได้หลายชนิด โดยเฉพาะโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง

ประโยชน์ของอาหารที่มีโพรแทสเซียมสูง

  1. ช่วยลดความดันโลหิต
    งานวิจัยจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2012 ระบุว่า การบริโภคโพรแทสเซียม 3,510 มิลลิกรัมต่อวันสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองได้
  2. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
    การศึกษาจาก American Journal of Clinical Nutrition ปี 2011 พบว่าผู้ที่บริโภคโพรแทสเซียมในปริมาณสูงมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจลดลงอย่างชัดเจน
  3. สมดุลเกลือโซเดียมในร่างกาย
    โพรแทสเซียมช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย ซึ่งช่วยลดผลเสียจากการบริโภคเกลือ (โซเดียม) มากเกินไป โดยเฉพาะในอาหารแปรรูปและอาหารฟาสต์ฟู้ด
  4. ช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท
    โพรแทสเซียมมีส่วนสำคัญในการส่งสัญญาณประสาทและการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งรวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจด้วย

ตัวอย่างอาหารที่มีโพรแทสเซียมสูง

อาหารปริมาณโพรแทสเซียมโดยประมาณ (มก.) ต่อหน่วยบริโภค
กล้วย 1 ผลกลาง422 มก.
มันฝรั่งอบ 1 หัว926 มก.
อะโวคาโด 1 ลูกกลาง708 มก.
ผักโขมต้ม 1 ถ้วย839 มก.
ถั่วดำสุก 1 ถ้วย611 มก.
แครอท 1 ถ้วย390 มก.

ใครบ้างที่ควรระมัดระวังการบริโภคโพรแทสเซียมสูง

แม้ว่าโพรแทสเซียมจะมีประโยชน์มาก แต่ก็ไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะ:

  1. ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease)
    ไตทำหน้าที่ขับโพรแทสเซียมส่วนเกินออกจากร่างกาย หากไตทำงานบกพร่อง โพรแทสเซียมอาจสะสมจนเป็นอันตรายถึงขั้นหัวใจหยุดเต้นได้
  2. ผู้ใช้ยาบางชนิด
    เช่น ยาขับปัสสาวะชนิดที่ไม่ขับโพแทสเซียม (Potassium-sparing diuretics), ยา ACE inhibitors และยา ARBs ที่มักใช้รักษาความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ อาจทำให้ระดับโพรแทสเซียมในเลือดสูงขึ้นได้
  3. ผู้สูงอายุที่มีการทำงานของไตลดลง
    แม้จะไม่ทราบว่าตนเองมีโรคไตหรือไม่ แต่การทำงานของไตที่ลดลงตามวัยอาจทำให้ไม่สามารถขับโพรแทสเซียมส่วนเกินได้ดีนัก

คำแนะนำในการบริโภคโพรแทสเซียม

  • สำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป องค์การอนามัยโลกแนะนำให้บริโภคโพรแทสเซียม อย่างน้อย 3,510 มิลลิกรัมต่อวัน
  • หากคุณเป็นผู้ป่วยโรคไต หรือรับประทานยาที่มีผลต่อระดับโพรแทสเซียม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพิ่มปริมาณโพรแทสเซียมในอาหาร

บทสรุป

อาหารที่มีโพรแทสเซียมสูง เช่น กล้วย ผักใบเขียว ถั่ว และมันฝรั่ง มีประโยชน์อย่างมากต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง แต่ก็ต้องบริโภคอย่างระมัดระวังในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยโรคไตหรือผู้สูงอายุ

การเลือกอาหารให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพของตนเอง และการปรึกษาแพทย์หากมีโรคประจำตัว คือทางเลือกที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน

แหล่งอ้างอิง:

  1. World Health Organization. Guideline: Potassium intake for adults and children. 2012.
  2. Zhang Z et al. Potassium Intake and All-Cause Mortality: A Prospective Cohort Study. Am J Clin Nutr. 2011; 94(2): 509–516.
  3. National Kidney Foundation. Potassium and Your CKD Diet.
  4. Mente A et al. Urinary Sodium and Potassium Excretion, Mortality, and Cardiovascular Events. N Engl J Med. 2014.