
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้เผยถึงแนวปฏิบัติสำคัญหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องการตัดเกรดนักเรียน การติดตามเด็กหลุดระบบการศึกษา และโครงการโรงเรียนคุณภาพ
แนวปฏิบัติใหม่เกี่ยวกับการตัดเกรด “ศูนย์-ร-มส.”
เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า ได้ออกหนังสือซักซ้อมแนวปฏิบัติถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ เพื่อแจ้งสถานศึกษาให้ถือปฏิบัติในเรื่องการตัดเกรดนักเรียน โดยเฉพาะการให้ ศูนย์ (0), ร (ไม่ผ่าน), และ มส. (ไม่ส่งงาน) โดยย้ำว่าการตัดเกรดของโรงเรียนต้องไม่สร้างภาระเกินควรต่อนักเรียนและผู้ปกครอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “เรียนดี มีความสุข”
โรงเรียนทุกแห่งจึงต้องปฏิบัติตามแนวทางนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ระบบการประเมินผลเป็นไปอย่างยุติธรรม และช่วยลดความเครียดในหมู่ผู้เรียน
ติดตามเด็กหลุดระบบการศึกษาอย่างเข้มข้น
นอกจากนี้ สพฐ. ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการนำเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษากลับเข้าสู่โรงเรียนผ่านโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน” โดยขณะนี้มีเขตพื้นที่การศึกษา 138 เขตที่สามารถติดตามเด็กกลับเข้าสู่ระบบได้ครบ 100% แล้ว
อย่างไรก็ตาม สพฐ. ยังกำชับให้เขตพื้นที่การศึกษาอีก 245 เขต เร่งดำเนินการติดตามเด็กที่ยังไม่ได้กลับเข้าสู่ระบบ โดยตั้งเป้าว่าในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ทุกเขตจะต้องบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
เดินหน้าพัฒนาโครงการโรงเรียนคุณภาพ
สำหรับการขับเคลื่อน โครงการโรงเรียนคุณภาพ หรือ โรงเรียนร่วมพัฒนา เลขาธิการ กพฐ. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการดำเนินงานร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อยกระดับโรงเรียนในพื้นที่ โดยจะนำความร่วมมือในลักษณะนี้ไปขยายผลในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและสร้างมาตรฐานคุณภาพที่ยั่งยืน
สรุป
สพฐ. กำลังเดินหน้าพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งในแง่การประเมินผล การติดตามเด็กหลุดระบบ และการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ โดยทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่จะสร้างระบบการศึกษาที่มีความเท่าเทียมและส่งเสริมความสุขของผู้เรียนอย่างแท้จริง.