Posted on

น้ำมันมะกอก: ของขวัญล้ำค่าจากธรรมชาติ

น้ำมันมะกอกเป็นของเหลวสีเหลืองทองที่สกัดได้จากผลของต้นมะกอก (Olea europaea) ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน น้ำมันชนิดนี้ได้รับการยกย่องมาอย่างยาวนานในด้านคุณสมบัติทางโภชนาการและการรักษาสุขภาพที่หลากหลาย และยังคงเป็นส่วนสำคัญของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนแบบดั้งเดิมมาจนถึงทุกวันนี้

ประวัติความเป็นมาและการผลิต

ต้นมะกอกมีต้นกำเนิดในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก และมีการเพาะปลูกมาตั้งแต่สมัยโบราณ หลักฐานทางโบราณคดีชี้ให้เห็นว่าน้ำมันมะกอกถูกใช้ในอียิปต์โบราณ กรีซ และโรมโบราณ น้ำมันนี้มีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของภูมิภาคเหล่านี้ และยังคงเป็นเช่นนั้นมาจนถึงปัจจุบัน

การผลิตน้ำมันมะกอกเกี่ยวข้องกับกระบวนการหลายขั้นตอน ซึ่งเริ่มต้นด้วยการเก็บเกี่ยวผลมะกอก ผลไม้เหล่านี้จะถูกบดเพื่อสกัดน้ำมันดิบ ซึ่งจากนั้นจะถูกแยกออกจากน้ำและเศษอื่นๆ ผ่านกระบวนการสกัดแบบเย็นหรือแบบใช้ความร้อน น้ำมันมะกอกดิบที่ได้จากกระบวนการสกัดแบบเย็นนั้นมีรสชาติเข้มข้นกว่าและมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าน้ำมันที่สกัดจากความร้อน

ชนิดของน้ำมันมะกอก

มีน้ำมันมะกอกหลายประเภทที่จำแนกตามวิธีการสกัดและระดับความเป็นกรด:

  • น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ (Extra Virgin Olive Oil): เป็นน้ำมันมะกอกคุณภาพสูงที่สุดที่สกัดโดยใช้กระบวนการสกัดแบบเย็นและมีระดับความเป็นกรดไม่เกิน 0.8% น้ำมันชนิดนี้มีรสชาติที่เข้มข้นและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ (Virgin Olive Oil): เป็นน้ำมันมะกอกที่สกัดโดยใช้กระบวนการสกัดแบบเย็นและมีระดับความเป็นกรดไม่เกิน 2% น้ำมันชนิดนี้มีรสชาติที่น้อยกว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ แต่ยังคงมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง
  • น้ำมันมะกอกธรรมดา (Olive Oil): เป็นน้ำมันมะกอกที่สามารถสกัดได้โดยใช้กระบวนการทางเคมีหรือทางกลและมีระดับความเป็นกรดไม่เกิน 3.3% น้ำมันชนิดนี้มีรสชาติที่อ่อนกว่าและมีสารต้านอนุมูลอิสระน้อยกว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์
  • น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ (Pure Olive Oil): เป็นน้ำมันมะกอกที่ผสมระหว่างน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์และน้ำมันมะกอกธรรมดา มีระดับความเป็นกรดไม่เกิน 1%

องค์ประกอบทางโภชนาการ

น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพ โดยมีองค์ประกอบทางโภชนาการดังนี้:

  • ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว: ไขมันชนิดนี้คิดเป็นประมาณ 73% ของน้ำมันมะกอกทั้งหมด และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL (ไม่ดี) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล HDL (ดี)
  • ไขมันอิ่มตัว: ไขมันชนิดนี้คิดเป็นประมาณ 14% ของน้ำมันมะกอกทั้งหมด และช่วยให้ร่างกายดูดซับวิตามินที่ละลายในไขมันได้
  • ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน: ไขมันชนิดนี้คิดเป็นประมาณ 11% ของน้ำมันมะกอกทั้งหมด และช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจ
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอีและโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
  • วิตามิน: น้ำมันมะกอกมีวิตามินอีและวิตามินเคในปริมาณสูง ซึ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพหัวใจและกระดูก

ประโยชน์ต่อสุขภาพ

น้ำมันมะกอกได้รับการยกย่องในด้านประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ได้แก่:

  • สุขภาพหัวใจ: ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในน้ำมันมะกอกช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล HDL ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • การอักเสบ: สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันมะกอกช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเชื่อมโยงกับโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคข้ออักเสบ และโรคมะเร็ง
  • สุขภาพสมอง: สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันมะกอกช่วยปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหาย และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสัน
  • สุขภาพกระดูก: วิตามินเคในน้ำมันมะกอกจำเป็นสำหรับการสร้างและบำรุงกระดูกที่แข็งแรง
  • สุขภาพผิว: สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันมะกอกช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายของแสงแดดและการอักเสบ และอาจช่วยลดริ้วรอยและการเกิดสิว

การใช้ประโยชน์

น้ำมันมะกอกเป็นส่วนประกอบที่หลากหลายซึ่งสามารถใช้ในอาหารและเครื่องสำอางได้หลายวิธี:

  • การปรุงอาหาร: น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันปรุงอาหารที่ดีต่อสุขภาพซึ่งสามารถใช้สำหรับผัด ทอด ย่าง และอบอาหารได้หลากหลาย
  • น้ำสลัด: น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษเป็นน้ำสลัดที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับสลัด ผัก และเนื้อสัตว์
  • การหมัก: น้ำมันมะกอกสามารถใช้หมักเนื้อสัตว์ ปลา และผักเพื่อเพิ่มรสชาติและความนุ่ม
  • เครื่องสำอาง: น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษสามารถใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวและผมได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นและต่อต้านริ้วรอย

การเลือกและการเก็บรักษา

เมื่อเลือกน้ำมันมะกอก สิ่งสำคัญคือต้องมองหาน้ำมันที่บรรจุในภาชนะสีเข้มเพื่อปกป้องจากแสง น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการบริโภคและการปรุงอาหาร เนื่องจากมีรสชาติที่ดีที่สุดและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด

น้ำมันมะกอกควรเก็บไว้ในที่เย็นและมืดเพื่อรักษาคุณภาพและรสชาติ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อน แสง และอากาศ น้ำมันมะกอกที่เก็บรักษาอย่างเหมาะสมสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี

ข้อควรระวัง

แม้ว่าน้ำมันมะกอกจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากมีแคลอรีสูง น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษมีจุดควันที่ต่ำ ซึ่งหมายความว่าจะไหม้ได้ง่ายเมื่อปรุงอาหารที่อุณหภูมิสูง

บทสรุป

น้ำมันมะกอกเป็นของขวัญล้ำค่าจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสารอาหารและประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย น้ำมันชนิดนี้เป็นส่วนสำคัญของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนแบบดั้งเดิม และยังคงเป็นที่นิยมในปัจจุบันเนื่องจากรสชาติที่อร่อยและคุณสมบัติทางโภชนาการที่ยอดเยี่ยม เมื่อใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ น้ำมันมะกอกสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพหัวใจ สมอง และโดยรวมได้.

THP น้ำมันมะกอก ผสม วิตามิน อี บรรจุ 30 แคปซูล

เข้าดูโปรโมชั่น

ซัมยัง จาจาโรนีซอสถั่วดำน้ำมันมะกอก 140 กรัม (แพ็ก 5 ซอง)

เข้าดูโปรโมชั่น

Easymax เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด รุ่น MU พร้อมแถบในการตรวจ จำนวน 50 ชิ้น

เข้าดูโปรโมชั่น