
ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศจีนได้เผชิญกับปัญหาการขยายตัวของทะเลทรายอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในเขตทางเหนือและตะวันตกของประเทศซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศแห้งแล้ง หนึ่งในทะเลทรายที่มีชื่อเสียงคือ ทะเลทรายคูปูฉี (Kubuqi Desert) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพื้นที่ที่ไร้ชีวิต ไม่มีพืชพรรณ และเป็นต้นเหตุของพายุทรายที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคใกล้เคียง ทว่าด้วยนโยบายและโครงการฟื้นฟูที่อาศัยหลัก “ธรรมชาติกู้ธรรมชาติ” กระต่ายกลับกลายเป็นพระเอกในภารกิจนี้
🏜️ ปัญหาทะเลทรายขยายตัวในจีน
จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (UNCCD) จีนเคยมีพื้นที่ทะเลทรายที่กินอาณาบริเวณมากกว่า 2.6 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับพื้นที่กว่า 27% ของประเทศ ส่งผลกระทบต่อประชากรหลายสิบล้านคนในเรื่องคุณภาพอากาศ การเกษตร และการอยู่อาศัย
รัฐบาลจีนจึงริเริ่มโครงการ “Green Great Wall” หรือ “กำแพงเขียว” เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ทะเลทราย และหนึ่งในกลยุทธ์ที่น่าสนใจที่สุดคือการนำสัตว์ที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยให้ระบบนิเวศฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ซึ่งรวมถึง “กระต่าย”
🐇 บทบาทของกระต่ายในระบบนิเวศทะเลทราย
1. กระต่ายในฐานะเครื่องจักรฟื้นฟูดิน
มูลของกระต่ายมีธาตุอาหารที่สำคัญต่อพืช เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งช่วยให้พืชสามารถตั้งรากและเจริญเติบโตได้ดีในดินที่เคยแห้งแล้ง นอกจากนี้ มูลกระต่ายยังย่อยง่าย ไม่ร้อน และสามารถใช้เป็นปุ๋ยธรรมชาติได้โดยตรงโดยไม่ต้องหมัก
2. การเคลื่อนไหวที่พลิกฟื้นหน้าดิน
กระต่ายเป็นสัตว์ที่ชอบขุดโพรงและเดินทางไกลในพื้นที่กว้าง พฤติกรรมนี้ช่วยให้หน้าดินเกิดการพลิกกลับ (soil aeration) ส่งผลให้ดินไม่แข็งตัวและสามารถกักเก็บความชื้นได้ดีขึ้น ซึ่งมีความสำคัญมากในพื้นที่แห้งแล้งที่ฝนตกน้อย
3. เชื่อมโยงกับพืชและสัตว์อื่น
เมื่อมีพืชเกิดขึ้นมากขึ้น ก็จะดึงดูดสัตว์ชนิดอื่น เช่น นก หนูป่า หรือแมลง ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ กระต่ายจึงมีบทบาทสำคัญในกระบวนการฟื้นฟูระบบนิเวศจากระดับล่างขึ้นสู่ระดับสูง (bottom-up restoration)
🌱 ความสำเร็จในทะเลทรายคูปูฉี
โครงการฟื้นฟูทะเลทรายคูปูฉี ซึ่งเริ่มต้นในช่วงทศวรรษ 1980 เป็นตัวอย่างความสำเร็จของแนวทางนี้ พื้นที่ทะเลทรายกว่า 6,000 ตารางกิโลเมตร ได้รับการฟื้นฟูผ่านการปลูกพืชท้องถิ่น เช่น haloxylon และ licorice ควบคู่กับการเลี้ยงสัตว์อย่างกระต่าย แพะ และอูฐ ซึ่งช่วยปรับสมดุลระบบนิเวศ
นอกจากประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อมแล้ว โครงการยังสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นผ่านอุตสาหกรรมปศุสัตว์ การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
🌍 บทเรียนและการประยุกต์ใช้ทั่วโลก
การฟื้นฟูทะเลทรายของจีน โดยใช้กระต่ายและสัตว์เลี้ยงธรรมชาติ เป็นแบบอย่างของ “nature-based solution” ที่ควรได้รับการศึกษาและประยุกต์ใช้ในพื้นที่แห้งแล้งอื่นทั่วโลก เช่น แอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และบางพื้นที่ในอเมริกาใต้
นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงหลักการ “เกษตรแบบยั่งยืน” ที่เน้นความร่วมมือระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ เพื่อสร้างสมดุลระยะยาวระหว่างการใช้ทรัพยากรและการอนุรักษ์
✍️ สรุป
แม้กระต่ายจะเป็นสัตว์ที่ดูธรรมดา แต่บทบาทของพวกมันในโครงการฟื้นฟูทะเลทรายในจีนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ธรรมชาติสามารถเป็นทั้งปัญหาและคำตอบได้ในเวลาเดียวกัน การนำสัตว์เหล่านี้มาใช้ร่วมกับวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมจึงเป็นแนวทางที่น่าสนใจและควรได้รับการสนับสนุนมากยิ่งขึ้นในอนาคต.
📚 แหล่งอ้างอิง
- UNCCD. (2020). China’s Fight Against Desertification
- MDPI. (2020). “Desertification Control Practices in China”. Sustainability, 12(8), 3258. ดูเอกสาร
- TIME. (2017). “China’s Greening of the Vast Kubuqi Desert is a Model for Land Restoration Projects Everywhere.” อ่านบทความ