
เรื่องราวของเรือไททานิคยังคงเป็นหนึ่งในเรื่องราวโศกนาฏกรรมของมนุษย์ที่เป็นปริศนาและน่าค้นหาคำตอบที่สุดในประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่ง ในขณะที่เรือเคราะห์ร้ายลำนี้ได้ประสบกับความสูญเสีย ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับความอาถรรพ์ของมัมมี่ที่อยู่บนเรือไททานิคปรากฏขึ้น จากนั้นเป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ ปริศนาการอับปางของเรือไททานิคก็ยังคงเป็นที่สนใจของเหล่าบรรดานักประวัติศาสตร์ที่พยายามไขปริศนาสาเหตุของการอับปางนี้ รวมถึงเรื่องราวอาถรรพ์ของมัมมี่บนเรือไททานิคและวิเคราะห์แนวคิดที่เป็นข้อสันนิษฐานต่างๆ เกี่ยวกับการปรากฏขึ้นของมัมมี่
ตำนานเริ่มต้น
เรื่องราวเริ่มขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อนักโบราณคดีชาวอังกฤษได้ทำการขุดค้นวัตถุโบราณในประเทศอียิปต์ พวกเขาได้ค้นพบโลงศพโบราณที่บรรจุศพของนักบวชหญิงชาวอียิปต์คนหนึ่งที่ชื่อ อะมันรา(Amun-Ra) นักโบราณคดีตัดสินใจนำโลงศพนี้กลับไปยังประเทศอังกฤษเพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นการแสดงสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ในอดีตของชาติอียิปต์ในอดีต
การเดินทางกับความอาถรรพ์ของมัมมี่
ในยุคนั้น เรือไททานิคถือว่าเป็นเรือที่ทันสมัยที่สุดและได้ชื่อว่าเป็นเรือที่จะ “ไม่มีวันจม” มันได้ออกเดินทางครั้งแรกจากเมืองเซาแธมป์ตันประเทศอังกฤษมุ่งสู่ปลายทางคือนครนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งบรรทุกผู้โดยสารและสินค้าต่างๆ หลายชนิด ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้มีข่าวลือว่าเรือไททานิคได้บรรทุกศพมัมมี่อียิปต์ดังกล่าวไปบนเรือด้วย เพื่อนำไปจัดแสดงนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ของอเมริกา
ความลึกลับ
ในคืนวันที่ 15 เมษายน 1912 ในระหว่างการเดินทางมุ่งสู่นิวยอร์ก เรือไททานิคเกิดการชนกับภูเขาน้ำแข็งและจมลงไปในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ข่าวการอับปางของเรือไททานิคและการเสียชีวิตของผู้โดยสารได้สร้างความโศกเศร้าให้แก่ผู้คนทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็มีข่าวลือแพร่สะพัดเกี่ยวกับการปรากฏตัวของมัมมี่ลึกลับบนเรือไททานิคด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามข่าวลือเรื่องการปรากฏตัวของมัมมี่บนเรือก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้สงสัยหลายคนได้ตั้งสมมติฐานเพื่อพยายามไขปริศนาเกี่ยวกับความลึกลับของมัมมี่บนเรือไททานิค:
ทฤษฎีในแง่การจัดนิทรรศการ: สมมติฐานนี้ชี้ว่า “มัมมี่” อยู่บนเรือไททานิคจริง ซึ่งเป็นวัตถุโบราณชนิดหนึ่งจากหลายๆชนิด ที่ถูกนำไปเพื่อจัดแสดงนิทรรศการในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ทฤษฎีนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานและบันทึกที่ชัดเจนจากบริษัทที่เป็นเจ้าของเรือไททานิคที่ชื่อบริษัทไวท์สตาร์ไลน์ จึงเป็นไปได้ว่าทฤษฎีนี้อาจเป็นไปในแง่เพื่อหวังผลทางการค้าหรือในแง่การเก็งกำไรจากวัตถุโบราณเท่านั้น
ทฤษฎีในแง่คำสาปของมัมมี่: แนวคิดที่น่าสนใจอีกอย่างคือ “คำสาปของมัมมี่” ตามทฤษฎีนี้ การปรากฏตัวของมัมมี่บนเรืออาจเกิดจากคำสาปของเทพเจ้าอียิปต์โบราณจากการที่นักโบราณคดีได้นำศพ “มัมมี่” เคลื่อนย้ายออกไปจากอียิปต์ จึงส่งผลร้ายแรงกับเรือไททานิค แม้ว่าทฤษฎีนี้จะยิ่งเพิ่มความลึกลับมากขึ้นไปอีกก็ตาม แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดๆที่จะสนับสนุนทฤษฎีนี้
ทฤษฎีในแง่หักล้าง: มีผู้สงสัยอีกหลายคนได้ให้แง่คิดขัดแย้งว่าการขนส่งโบราณวัตถุที่มีคุณค่า โดยเฉพาะ “มัมมี่” ให้ไปกับเรือโดยสารนั้น ไม่สามารถทำได้จริงเพราะอาจมีความเสี่ยงมากมาย พวกเขาได้ให้แง่คิดที่ว่า “มัมมี่” อาจถูกขนส่งไปในเรือลำอื่นแทน หรืออาจมีการขายไปแล้วก่อนที่เรือไททานิคจะออกเดินทาง ซึ่งเป็นแง่คิดที่หักล้างความคิดที่ว่า “มัมมี่” อยู่บนเรือไททานิค
ความลึกลับของมัมมี่บนเรือไททานิคก็ยังคงดึงดูดจินตนาการของผู้คนให้สานต่อเรื่องราวของโบราณวัตถุ ภัยพิบัติทางทะเล และคำถามที่ยังค้นหาคำตอบไม่ได้ แม้จะมีการวิจัยในวงกว้างและมีการสืบสวนหลายครั้ง แต่หลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรากฏตัวของ “มัมมี่” บนเรือไททานิคนั้น ก็ยังคงเป็นเรื่องที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ยากยิ่งนัก ในขณะที่ผู้คลั่งไคล้ประวัติศาสตร์ก็ยังคงค้นหาความจริงอยู่อย่างต่อเนื่อง ตำนานของ “มัมมี่” บนเรือไททานิคถือเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงเสน่ห์อันเย้ายวนใจให้ผู้คนอยากค้นหาความลึกลับที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผยความจริงและเรื่องราวอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นผิวของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์นี้