Posted on

โลกกำลังเดินทางเข้าใกล้ยุคสงครามอีกครั้งหรือไม่?

(ภาพประกอบ)

เมื่อข้อเสนอหยุดยิงกลายเป็นเวทีต่อรอง และสันติภาพอาจเป็นเพียงกลยุทธ์

ผู้เขียน: ทีมข่าววิเคราะห์พิเศษ Coohfey.com
เผยแพร่วันที่: 12 พฤษภาคม 2568

สัญญาณความรุนแรงที่ยังไม่จางหาย

เหตุการณ์ล่าสุดในยูเครนทำให้โลกต้องตั้งคำถามอย่างจริงจังว่า เรากำลังเข้าใกล้ยุคแห่งสงครามใหญ่อีกครั้งหรือไม่ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินเสนอจัดการเจรจา “แบบตัวต่อตัว” กับยูเครนที่ตุรกี ในขณะที่พันธมิตรตะวันตกของยูเครนกลับเรียกร้องให้รัสเซียยอมรับข้อเสนอหยุดยิงก่อนถึงจะเริ่มเจรจาได้

ข้อเสนอหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไขระยะเวลา 30 วัน ซึ่งมีที่มาจากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และยูเครน ถูกผลักดันโดยผู้นำยุโรปในช่วงเวลาที่ทั้งโลกกำลังจับตามองว่าสันติภาพกำลังจะเกิดขึ้น หรือเป็นเพียงการเบี่ยงเบนกลยุทธ์เพื่อยืดเวลาสำหรับเตรียมสงครามระลอกใหม่

ความเงียบที่ส่งเสียงดังจากปูติน

แม้ปูตินจะกล่าวว่าเขา “พร้อมสำหรับการเจรจาจริงจัง” และต้องการสร้าง “สันติภาพที่ยั่งยืน” แต่เขากลับไม่กล่าวถึงข้อเสนอหยุดยิงของฝั่งตะวันตกแม้แต่น้อยในแถลงการณ์เวลาเที่ยงคืน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้พันธมิตรยูเครนมองว่าเป็นการ “ปัดตกข้อเสนออย่างมีชั้นเชิง” โดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสถึงกับกล่าวว่าข้อเสนอของปูตินนั้น “ยังไม่เพียงพอ” และ “ต้องมีการหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไขก่อน”

คำถามที่โลกควรถามไม่ใช่แค่ปูตินต้องการสันติภาพจริงหรือไม่ แต่คือ “ปูตินต้องการสงครามต่อไปหรือไม่?” ซึ่งสำหรับหลายประเทศในยุโรป คำตอบเริ่มชัดเจนขึ้นทุกวัน

บทบาทของทรัมป์: พันธมิตรหรือผู้ชี้ชะตา?

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกลับมามีบทบาทนำในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ อีกครั้ง ได้แสดงความยินดีต่อข้อเสนอการเจรจา แต่ก็มีท่าทีที่ไม่ชัดเจนต่อเงื่อนไขของการหยุดยิง บางครั้งแสดงความหงุดหงิดต่อทั้งรัสเซียและยูเครนอย่างเท่าเทียมกัน ทำให้พันธมิตรยุโรปเริ่มวิตกว่าหากสหรัฐฯ “เบื่อหน่าย” กับสงครามนี้และถอนตัวจากบทบาทนำ ผลลัพธ์อาจเป็นหายนะสำหรับยูเครนและเสถียรภาพของยุโรปทั้งหมด

ความพยายามของทรัมป์ในการโน้มน้าวให้ปูตินเข้าร่วมการเจรจา อาจเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยง เพราะหากปูตินสามารถ “ซื้อเวลา” ได้อีก ก็อาจกลับมาเปิดฉากโจมตีใหม่ในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง

โลกในเส้นทางสู่สงคราม? หรือความหวังสุดท้ายของสันติภาพ?

เมื่อผู้นำยุโรปทั้งจากฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และโปแลนด์ เดินทางไปพบกับประธานาธิบดียูเครนในกรุงเคียฟ พร้อมขีดเส้นตายให้รัสเซียตอบรับข้อเสนอหยุดยิงภายในวันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม 2568 และขู่ด้วยมาตรการคว่ำบาตร “ครั้งใหญ่” หากไม่ทำตาม โลกก็ยิ่งเห็นภาพของสงครามทางการทูตที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้นทุกวัน

ความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณว่า “ยุคใหม่ของสงครามเย็น” หรือแม้แต่สงครามจริง ๆ อาจใกล้เข้ามาอีกครั้ง ท่ามกลางการเสริมกำลังของยูเครนและการส่งโดรนโจมตีมากกว่า 100 ครั้งในคืนเดียวจากรัสเซีย ความกลัวว่าการหยุดยิงจะเป็นเพียง “หลุมพราง” เพื่อการจัดระเบียบกองทัพใหม่ของทั้งสองฝ่าย กำลังเป็นจริงขึ้น

วิเคราะห์เชิงลึก:

  1. สงครามยุคใหม่ไม่ใช่แค่เรื่องของอาวุธ แต่คือเกมการเมืองและจิตวิทยา – การใช้ข้อเสนอเจรจาเพื่อซื้อเวลาเป็นสิ่งที่รัฐมหาอำนาจใช้มานาน และสถานการณ์ในยูเครนคือเวทีล่าสุด
  2. สหรัฐฯ กับบทบาทที่ไม่แน่นอน – หากวอชิงตันถอนตัวหรือไม่สนับสนุนยูเครนอย่างชัดเจน จะเปลี่ยนสมดุลพลังของยุโรปและรัสเซียในทันที
  3. ยุโรปกำลังเรียนรู้บทเรียนจากยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง – ความลังเลในอดีตทำให้ฮิตเลอร์ลุกฮือได้ และปัจจุบันผู้นำยุโรปหลายคนเชื่อว่าไม่ควรให้ประวัติศาสตร์ ซ้ำรอย.