Posted on

โปรไบโอติก: ทางเลือกใหม่ในการเสริมสร้างสุขภาพและภูมิคุ้มกัน

ในปัจจุบัน โปรไบโอติก (Probiotics) กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในวงการสุขภาพและโภชนาการ เนื่องจากมีการศึกษาพบว่าจุลินทรีย์ที่มีชีวิตเหล่านี้สามารถช่วยส่งเสริมระบบทางเดินอาหาร เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และอาจมีประโยชน์ในการรักษาโรคบางชนิดได้

โปรไบโอติกคืออะไร?

โปรไบโอติกคือจุลินทรีย์ที่มีชีวิต ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมสุขภาพ โดยมักพบได้ในผลิตภัณฑ์หมักดอง เช่น โยเกิร์ต กิมจิ เทมเป้ และคอมบูชา รวมถึงมีจำหน่ายในรูปแบบอาหารเสริม โดยจุลินทรีย์ที่นิยมใช้เป็นโปรไบโอติก ได้แก่ Lactobacillus และ Bifidobacterium ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้

อาหารที่มีโปรไบโอติกสูง

อาหารที่มีโปรไบโอติกสามารถพบได้ในหลายแหล่งธรรมชาติ ได้แก่:

  • โยเกิร์ต – แหล่งโปรไบโอติกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
  • กิมจิ – ผักกาดดองแบบเกาหลีที่อุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์
  • มิโสะ – เครื่องปรุงญี่ปุ่นที่ทำจากถั่วเหลืองหมัก
  • คอมบูชา – ชาหมักที่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ
  • เทมเป้ – ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองหมักที่เป็นแหล่งโปรตีนและโปรไบโอติก
  • ซาวเคราท์ – กะหล่ำปลีหมักที่มีจุลินทรีย์ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้
  • นัตโตะ – ถั่วหมักญี่ปุ่นที่มีโปรไบโอติกสูง

ประโยชน์ของโปรไบโอติก

  1. เสริมสร้างระบบทางเดินอาหาร – โปรไบโอติกช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ลดปัญหาท้องเสีย อาการลำไส้แปรปรวน และช่วยในการย่อยอาหาร
  2. กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน – งานวิจัยพบว่าโปรไบโอติกสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน และอาจลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
  3. ช่วยลดอาการแพ้และอักเสบ – มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าโปรไบโอติกอาจช่วยลดอาการแพ้อาหาร ลดการอักเสบของผิวหนัง และช่วยบรรเทาอาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
  4. ส่งเสริมสุขภาพจิต – มีงานวิจัยเชื่อมโยงระหว่างจุลินทรีย์ในลำไส้กับสมอง โดยพบว่าโปรไบโอติกอาจช่วยลดภาวะเครียดและอาการซึมเศร้าได้

งานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับโปรไบโอติก

ล่าสุดมีงานวิจัยที่ศึกษาผลของโปรไบโอติกต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน (URTIs) ในเด็ก โดยพบว่าการใช้โปรไบโอติกที่ประกอบด้วย Bifidobacterium breve M-16V, Bifidobacterium lactis HN019, และ Lactobacillus rhamnosus HN001 สามารถช่วยลดระยะเวลาของไข้ได้ถึง 2 วันเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับโปรไบโอติก งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของโปรไบโอติกในการช่วยบรรเทาอาการของโรคติดเชื้อ และอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพของเด็ก (JAMA Network Open, 2025)

ข้อควรระวังในการใช้โปรไบโอติก

แม้ว่าโปรไบโอติกจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถรับประทานได้โดยไม่มีความเสี่ยง ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคร้ายแรงบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน นอกจากนี้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้

บทสรุป

โปรไบโอติกเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเสริมสร้างสุขภาพ โดยเฉพาะในด้านการดูแลระบบทางเดินอาหารและภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม การบริโภคโปรไบโอติกควรอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพของคุณ.

References:

  1. JAMA Network Open. Effect of Probiotics on Fever Duration in Children With Upper Respiratory Tract Infections. 2025. doi:10.1001/jamanetworkopen.2025.0669.
  2. National Institutes of Health (NIH). Probiotics: What You Need to Know. 2024. Available at: https://ods.od.nih.gov/factsheets/Probiotics-Consumer/.
  3. World Health Organization (WHO). Probiotics in Food: Health and Nutritional Properties. 2023. Available at: https://www.who.int/foodsafety/probiotics/.