เหตุการณ์ในราฟาห์ทวีความรุนแรงมากขึ้นในขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ให้คำมั่นว่าจะต่อสู้กับกลุ่มฮามาสต่อไป แม้ว่าจะได้รับคำเตือนจากสหรัฐฯก็ตาม สถานการณ์มาถึงจุดวิกฤตแล้ว ขณะที่คนหลายพันคนหนีออกจากเมืองท่ามกลางปฏิบัติการทางทหารที่กำลังดำเนินอยู่
การที่เนทันยาฮูขัดขืนคำเตือนของสหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ โดยอ้างถึงเหตุการณ์ในอดีตและเน้นย้ำถึงความสามารถของอิสราเอลในการยืนหยัดตามลำพังหากจำเป็น อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ได้ระงับการขนส่งอาวุธเนื่องจากความกังวลเรื่องการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนในเมืองราฟาห์ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้น
สหประชาชาติรายงานการพลัดถิ่นจำนวนมากและเสบียงที่จำเป็นที่ลดลงสำหรับผู้ที่ยังคงอยู่ในราฟาห์ โดยเน้นย้ำถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาค ขณะเดียวกัน ความหวังสำหรับข้อตกลงสันติภาพกำลังจางหายไป เนื่องจากทั้งคณะผู้แทนอิสราเอลและฮามาสต่างก็ล้มเลิกและเดินหนีจากวงการเจรจาในกรุงไคโร
ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นและความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้น แนวโน้มของการแก้ปัญหาอย่างสันติดูเหมือนจะห่างไกลมากขึ้น เมื่อความขัดแย้งในฉนวนกาซาเข้าสู่เดือนที่เจ็ด