Posted on

วิเคราะห์โครงการ “วูลลี่เมาส์”: ก้าวแรกสู่การคืนชีพแมมมอธหรือเพียงแค่หนูขนยาว?

การพัฒนา “วูลลี่เมาส์” โดยบริษัทโคลอสซอลไบโอไซน์(Colossal Biosciences) เป็นก้าวสำคัญที่อาจนำไปสู่การคืนชีพของสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว เช่น แมมมอธขนยาว ดราโด และไทลาซีน (เสือแทสเมเนีย) อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมยังมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับความเป็นไปได้และผลกระทบของโครงการนี้

วูลลี่เมาส์ (Woolly Mouse): การดัดแปลงพันธุกรรมที่ล้ำหน้า

บริษัทโคลอสซอลไบโอไซน์(Colossal Biosciences) ใช้เทคโนโลยีตัดต่อยีนเพื่อนำลักษณะของแมมมอธมาสู่หนู โดยมีการดัดแปลงพันธุกรรมใน 10 ตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับลักษณะของขน ความหนาแน่นของเส้นขน และปริมาณไขมันในร่างกาย ซึ่งรวมถึง:

  • ยีน FGF5 ควบคุมวงจรการเจริญเติบโตของขน ทำให้ขนยาวขึ้น
  • ยีน MC1R ควบคุมเม็ดสีของขน ทำให้ขนมีสีทองคล้ายแมมมอธ
  • การดัดแปลงอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เกิดขนหนา หยิก และหนวดหยัก

เทคนิคการตัดต่อยีนที่ใช้ถือเป็นความก้าวหน้าทางพันธุศาสตร์ โดยสามารถทำการเปลี่ยนแปลงแปดตำแหน่งในเจ็ดยีนได้พร้อมกัน ซึ่งเป็นการยืนยันว่าบริษัทมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีนี้ได้อย่างแม่นยำ

ข้อถกเถียงเกี่ยวกับประโยชน์และความเป็นไปได้ของโครงการ

แม้ว่าผลการทดลองจะแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการปรับแต่งลักษณะของขนให้คล้ายแมมมอธ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวทางนี้:

  1. การตรวจสอบความสามารถในการทนต่อความหนาวเย็น – แม้ว่าจะสามารถสร้างหนูขนยาวได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าวูลลี่เมาส์สามารถทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้จริงหรือไม่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการคืนชีพแมมมอธ
  2. ข้อจำกัดทางพันธุกรรม – การดัดแปลงยีนเพียงไม่กี่ตำแหน่งอาจยังไม่เพียงพอที่จะสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีคุณสมบัติทางกายภาพและพฤติกรรมเหมือนกับสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว
  3. ความเป็นไปได้ในการนำไปใช้กับช้าง – แม้ว่าการดัดแปลงพันธุกรรมในเมาส์จะง่ายและใช้ได้ผล แต่ช้างมีระบบสืบพันธุ์ที่ซับซ้อน และเทคโนโลยีช่วยการสืบพันธุ์ของช้างยังไม่ก้าวหน้าเท่ากับของเมาส์หรือวัว

เป้าหมายของ Colossal และข้อกังวลจากนักวิทยาศาสตร์

Colossal Biosciences มีเป้าหมายที่จะคืนชีพแมมมอธขนยาวภายในปี 2028 โดยใช้การดัดแปลงพันธุกรรมของช้างเอเชียซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดของแมมมอธ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า:

  • การใช้เงินทุนจำนวนมากในโครงการนี้อาจไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับการอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่ยังมีชีวิตอยู่
  • การทดลองในระดับโมเลกุลยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะสามารถสร้างสัตว์ที่สามารถอยู่รอดได้จริงในสิ่งแวดล้อมที่ต้องการ
  • การเพาะเลี้ยงสัตว์ลูกผสมอาจสร้างปัญหาทางจริยธรรมและอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ที่ไม่คาดคิด

บทสรุป: ก้าวแรกที่สำคัญแต่ยังมีข้อจำกัด

แม้ว่าการพัฒนาวูลลี่เมาส์จะเป็นข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพของเทคโนโลยีการตัดต่อยีน แต่ยังมีข้อจำกัดที่ต้องแก้ไขก่อนจะสามารถใช้แนวทางนี้กับสัตว์ขนาดใหญ่และซับซ้อนอย่างช้างหรือแมมมอธได้ การคืนชีพสัตว์สูญพันธุ์อาจเป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติยังคงเป็นเรื่องที่ต้องการการวิจัยเพิ่มเติมอีกมาก.

References :

  • Colossal Biosciences (2024). “Genetic Editing and the Future of De-extinction.”
  • Science Media Centre (2024). “Expert Reactions to the Woolly Mouse Experiment.”
  • The Jackson Laboratory (2024). “The Role of Genetically Engineered Mice in Scientific Research.”