
การเยือนต่างประเทศครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี มาร์ก คาร์นีย์ ของแคนาดา ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางทางการทูตของประเทศ เมื่อเขาเลือกเดินทางไปยุโรปก่อนสหรัฐอเมริกา ซึ่งขัดแย้งกับธรรมเนียมปฏิบัติที่ผู้นำแคนาดามักให้ความสำคัญกับเพื่อนบ้านทางใต้เป็นลำดับแรก
สัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับยุโรป
คาร์นีย์ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง และนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างแคนาดากับยุโรป คาร์นีย์ กล่าวถึงแคนดาว่าเป็น “ประเทศที่มีความเป็นยุโรปมากที่สุดในบรรดาประเทศที่ไม่ได้อยู่ในยุโรป” พร้อมแสดงเจตจำนงที่จะเป็น “พันธมิตรที่เชื่อถือได้และแข็งแกร่ง” ของยุโรป
ในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงท่าทีที่ไม่เป็นมิตรต่อแคนาดา โดยใช้มาตรการทางภาษีที่เข้มงวด รวมถึงการแสดงความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับอธิปไตยของแคนาดา การสร้างพันธมิตรที่เข้มแข็งกับยุโรปอาจเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับ คาร์นีย์ ในการลดการพึ่งพาทางเศรษฐกิจและความมั่นคงจากสหรัฐฯ
การส่งสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ถึงทรัมป์
คาร์นีย์ ไม่เพียงปฏิเสธแนวคิดของ ทรัมป์ ที่เสนอให้แคนาดากลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ แต่ยังประกาศว่าประเทศของเขากำลังทบทวนการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 จากสหรัฐฯ พร้อมกันนั้นเขายังได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ
แม้จะมีท่าทีแข็งกร้าว แต่ คาร์นีย์ ก็แสดงท่าทีพร้อมที่จะเจรจากับสหรัฐฯ โดยกล่าวว่า “เมื่อสหรัฐฯ พร้อมที่จะพูดคุย เราก็พร้อมที่จะเจรจา” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแคนาดายังคงต้องการรักษาความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับสหรัฐฯ แต่ไม่ยอมรับเงื่อนไขที่เสียเปรียบ
ผลกระทบต่อการเมืองภายในแคนาดา
คาร์นีย์ ซึ่งเพิ่งเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและจะนำพรรคเสรีนิยมเข้าสู่การเลือกตั้งในปลายปีนี้ ได้รับแรงหนุนจากท่าทีแข็งกร้าวของ ทรัมป์ ก่อนหน้านี้ พรรคเสรีนิยมดูเหมือนจะประสบปัญหาด้านความนิยมและเผชิญกับการท้าทายจากพรรคอนุรักษนิยมที่นำโดย ปิแอร์ ปัวลิเยฟร แต่การโจมตีทางการเมืองและเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ อาจทำให้ประชาชนแคนาดาหันมาสนับสนุน คาร์นีย์ และพรรคของเขามากขึ้น
บทสรุป
การเลือกเดินทางเยือนยุโรปแทนสหรัฐฯ ของ คาร์นีย์ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของพิธีการ แต่เป็นการส่งสัญญาณเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญเกี่ยวกับแนวทางของแคนาดาในเวทีระหว่างประเทศ ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับวอชิงตัน การกระชับความสัมพันธ์กับยุโรปอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับแคนาดาในการรักษาอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจและการทูตของตน ท้ายที่สุดแล้ว ผลกระทบของการเดินทางครั้งนี้อาจไม่ได้มีเพียงในเวทีโลกเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการเมืองภายในประเทศ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยชี้ขาดในการเลือกตั้งครั้งต่อไปของแคนาดา.
Reference: Coohfey.com