Posted on

ผลวิจัยชี้: เด็กป่วยมะเร็งและครอบครัวต้องการสื่อสารเรื่องการพยากรณ์โรคแบบเฉพาะบุคคล – เสนอให้นักมะเร็งวิทยาสอบถามความต้องการก่อนเปิดเผยข้อมูล

เผยแพร่: 16 เมษายน 2568

การสื่อสารเรื่องการพยากรณ์โรค (Prognosis) ถือเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยเฉพาะในเด็ก ล่าสุดผลวิจัยเชิงคุณภาพที่ตีพิมพ์ใน JAMA Network Open เมื่อเดือนเมษายน 2568 เผยว่า เด็กที่ป่วยเป็นมะเร็งและครอบครัวส่วนใหญ่ต้องการให้มีการสอบถามถึง “ความต้องการในการสื่อสาร” ก่อนที่แพทย์จะเปิดเผยข้อมูลการพยากรณ์โรค เพื่อให้การดูแลรักษาเป็นไปอย่างเหมาะสมและตอบสนองต่อสภาวะอารมณ์ของผู้ป่วยและผู้ดูแลมากที่สุด

ผลการศึกษา: ผู้ป่วย ครอบครัว และแพทย์ต้องการแนวทางเฉพาะบุคคล

การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกกับกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 85 คน ประกอบด้วย

  • ผู้ป่วยเด็กและเยาวชน 25 คน
  • ผู้ปกครอง 40 คน
  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งในเด็ก (Pediatric Oncologists) 20 คน

ผลลัพธ์สำคัญที่ค้นพบคือ:

  • ผู้เข้าร่วมเกือบทั้งหมดแสดงความต้องการให้มีการสอบถามความชอบในการสื่อสารก่อนที่แพทย์จะเปิดเผยข้อมูลเรื่องการพยากรณ์โรค
  • เหตุผลหลักคือ ต้องการข้อมูลที่ “เหมาะสมกับแต่ละบุคคล” และช่วย “ปกป้องสภาพจิตใจและอารมณ์” ของผู้ป่วยและครอบครัว
  • กลุ่มผู้ป่วยและครอบครัวจำนวนมากยังเชื่อว่า ควรได้รับข้อมูลเรื่องพยากรณ์โรค แม้ว่าไม่ได้ร้องขอโดยตรง เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ

ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติสำหรับแพทย์

ผู้เข้าร่วมงานวิจัยแนะนำว่า แพทย์ควรใช้แนวทางดังนี้ในการสอบถามความต้องการในการสื่อสาร:

  1. ตั้งคำถามตรงไปตรงมา เช่น “คุณอยากทราบเรื่องเกี่ยวกับโรคและแนวโน้มของอาการในอนาคตมากน้อยแค่ไหน?”
  2. เปิดโอกาสให้เลือก เช่น ให้ผู้ป่วยเลือกว่าจะรับข้อมูลมากน้อยเพียงใด
  3. ใส่ใจในวิธีการและน้ำเสียง เพื่อไม่ให้การสนทนาเป็นการกดดันหรือสร้างความวิตกกังวล

เสียงสะท้อนจากครอบครัวและผู้ป่วย

ผู้ปกครองบางรายกล่าวว่า “แม้จะเป็นข้อมูลที่ยากจะรับฟัง แต่การได้รับรู้ความจริงช่วยให้เราเตรียมตัวและวางแผนชีวิตได้ดีกว่า”

ขณะเดียวกัน เด็กและเยาวชนผู้ป่วยมะเร็งบางคนก็ให้ความเห็นว่า “การที่แพทย์ถามก่อนว่าอยากรู้หรือไม่ ทำให้รู้สึกว่าเขาเคารพในความรู้สึกของเรา”

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในระบบการแพทย์

แม้จะมีเสียงสนับสนุนจากทั้งผู้ป่วย ครอบครัว และแพทย์เอง แต่งานวิจัยยังระบุว่า ปัจจุบันแพทย์ยังไม่ค่อยได้ใช้วิธีสอบถามล่วงหน้าเกี่ยวกับการสื่อสารพยากรณ์โรคอย่างเป็นระบบ ดังนั้นจึงเสนอให้แนวทางนี้ถูกบรรจุเข้าในหลักสูตรฝึกอบรมทักษะการสื่อสารของแพทย์ (Communication Skills Training – CST) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขามะเร็งวิทยาเด็ก

บทสรุปและข้อเสนอแนะในอนาคต

งานวิจัยนี้เน้นย้ำว่า “การสื่อสารที่ดี ไม่ใช่แค่การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ต้องให้ ‘ตรงกับความต้องการของผู้รับฟัง’ ด้วย” และการสอบถามความชอบในการสื่อสารเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเครื่องมือและแนวทางการดูแลผู้ป่วยมะเร็งในเด็กแบบเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้นในอนาคต.

แหล่งอ้างอิง:
Christianson, C., Jacob, S., Nguyen, T. et al. (2025). Preferences for Communication About Prognosis Among Children With Cancer, Parents, and Oncologists. JAMA Network Open, Published April 16, 2025.