Posted on

ผลวิจัยชี้อุปกรณ์ LVAD อาจคุ้มค่าสำหรับผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้ายในสิงคโปร์ที่ไม่สามารถปลูกถ่ายหัวใจได้

(ภาพประกอบ-สร้างจากคอมพิวเตอร์)

สิงคโปร์ – 18 เมษายน 2568 – งานวิจัยใหม่เผยว่าอุปกรณ์ช่วยการทำงานของหัวใจซีกซ้าย (Left Ventricular Assist Device: LVAD) อาจมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ในการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถปลูกถ่ายหัวใจได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องพึ่งพายากระตุ้นหัวใจ (inotrope-dependent)

การศึกษานี้จัดทำขึ้นโดยใช้แบบจำลองทางเศรษฐศาสตร์สุขภาพในกลุ่มผู้ป่วยผู้ใหญ่ในสิงคโปร์ โดยเปรียบเทียบระหว่างการรักษาด้วยอุปกรณ์ LVAD กับการรักษาทางการแพทย์อย่างเหมาะสม (Optimal Medical Management: MM) พบว่า ค่าใช้จ่ายต่อปีชีวิตที่ปรับคุณภาพแล้ว (QALY) สำหรับผู้ป่วยที่พึ่งพายากระตุ้นหัวใจอยู่ที่ 106,458 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 79,446 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมีโอกาสถึง 59% ที่การรักษานี้จะถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่รัฐกำหนดไว้ที่ 114,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อ QALY

ในทางตรงกันข้าม สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ได้พึ่งพายากระตุ้นหัวใจ การใช้ LVAD ให้ผลลัพธ์ที่ด้อยกว่าด้านความคุ้มค่า โดยมีค่าใช้จ่ายต่อ QALY สูงถึง 174,798 ดอลลาร์สิงคโปร์ (130,446 ดอลลาร์สหรัฐ) และมีเพียง 19% เท่านั้นที่มีโอกาสเข้าเกณฑ์ความคุ้มค่า

ข้อค้นพบที่สำคัญ

  • ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่าย LVAD มีอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 1.29 ปีเป็น 5.95 ปี และ QALY เพิ่มจาก 0.71 เป็น 4.15
  • ค่าใช้จ่ายรวมในการรักษาด้วย LVAD เฉลี่ยอยู่ที่ 496,969 ดอลลาร์สิงคโปร์ เทียบกับ 92,292 ดอลลาร์สิงคโปร์ สำหรับ MM
  • ความคุ้มค่าของ LVAD ในกลุ่มผู้ป่วยที่พึ่งพายากระตุ้นหัวใจจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหากต้นทุนการฝังอุปกรณ์ลดลง 20%–33%
  • การรักษาด้วย LVAD ยังไม่เหมาะสมสำหรับการขยายสิทธิสวัสดิการแก่ผู้ป่วยที่ไม่พึ่งพายากระตุ้นหัวใจ เนื่องจากต้องอาศัยการลดต้นทุนมากถึง 44% หรือเพิ่มอัตรารอดชีวิตถึง 54% จึงจะเข้าข่ายความคุ้มค่า

ข้อเสนอเชิงนโยบาย

จากผลการศึกษานี้ นักวิจัยเสนอให้รัฐบาลสิงคโปร์ พิจารณาสนับสนุนงบประมาณสำหรับการรักษาด้วย LVAD ในกลุ่มผู้ป่วยที่พึ่งพายากระตุ้นหัวใจเท่านั้น พร้อมทั้งเจรจาลดราคาการฝังอุปกรณ์จากผู้ผลิต เพื่อเพิ่มความมั่นใจในความคุ้มค่าระยะยาวของการลงทุนด้านสาธารณสุขนี้

ข้อจำกัดของการศึกษา

แม้การศึกษาจะใช้ข้อมูลจากผู้ป่วยในสิงคโปร์โดยตรงและคำนึงถึงปัจจัยท้องถิ่น แต่ยังคงมีข้อจำกัด เช่น การใช้ข้อมูลอัตรารอดชีวิตจากงานวิจัยในอเมริกาเหนือ และการขาดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตเฉพาะกลุ่มย่อย ซึ่งอาจส่งผลต่อความแม่นยำในระยะยาว

สรุป

ผลการศึกษานี้ถือเป็นหลักฐานแรกที่แสดงให้เห็นว่า LVAD อาจมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ในบริบทของสิงคโปร์ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวที่ไม่สามารถปลูกถ่ายหัวใจและจำเป็นต้องพึ่งพายากระตุ้นหัวใจ การตัดสินใจเชิงนโยบายควรให้ความสำคัญกับกลุ่มนี้เป็นลำดับแรก พร้อมทั้งผลักดันการลดต้นทุนเพื่อขยายโอกาสในการรักษาในอนาคต.

แหล่งอ้างอิง

  • Tay, J., Foo, C. W., Koh, J. Y., et al. (2025). Cost-Effectiveness of Left Ventricular Assist Device for Transplant-Ineligible Patients. JAMA Network Open. Published April 18, 2025.