Posted on

ผลวิจัยชี้ยานพาหนะเก่า-ไร้เทคโนโลยีช่วยขับ เสี่ยงเสียชีวิตในอุบัติเหตุมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น

(ภาพประกอบ)

อุบัติเหตุทางรถยนต์ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของวัยรุ่นในสหรัฐอเมริกา และแม้จะมีความพยายามมากมายในการลดจำนวนอุบัติเหตุ แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุกลับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ใน JAMA Network Open เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 ได้ให้ข้อมูลที่น่ากังวลว่า วัยรุ่นมีแนวโน้มขับรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีและมีเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่น้อยกว่าผู้ใหญ่ช่วงวัยกลางคน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความเสี่ยงในการเสียชีวิตเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

งานวิจัยนี้ศึกษาข้อมูลจากอุบัติเหตุร้ายแรงในช่วงปี 2016–2021 จากฐานข้อมูลของ Fatality Analysis Reporting System (FARS) ครอบคลุมผู้ขับขี่กว่า 81,000 คน โดยแบ่งกลุ่มเป็นวัยรุ่น (15-18 ปี) และวัยกลางคน (31-55 ปี) พบว่า 27.6% ของวัยรุ่นขับรถที่มีอายุเกิน 15 ปี เทียบกับ 22.8% ในกลุ่มวัยกลางคน และที่สำคัญคือ ยิ่งรถยนต์เก่ามากเท่าไหร่ โอกาสเสียชีวิตในอุบัติเหตุก็ยิ่งสูงขึ้น โดยรถยนต์อายุ 6-15 ปี เพิ่มความเสี่ยงเสียชีวิต 19% และรถยนต์ที่เก่าเกิน 15 ปีเพิ่มความเสี่ยงถึง 31% เมื่อเทียบกับรถที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี

นอกจากนี้ งานวิจัยยังชี้ว่า เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติหรือเตือนจุดบอด มีบทบาทสำคัญในการลดโอกาสเสียชีวิต โดยทุกหนึ่งระบบเทคโนโลยีที่ติดตั้งเพิ่มขึ้น ลดความเสี่ยงเสียชีวิตได้ถึง 6% อย่างไรก็ตาม วัยรุ่นกลับมีแนวโน้มใช้งานรถที่ขาดเทคโนโลยีเหล่านี้มากกว่าวัยกลางคน อาจเป็นเพราะวัยรุ่นมักได้รับรถเก่าต่อจากครอบครัว ซึ่งมักไม่มีระบบความปลอดภัยสมัยใหม่

ผลการศึกษานี้มีนัยสำคัญต่อผู้ปกครอง แพทย์ และผู้กำหนดนโยบาย เพราะแสดงให้เห็นว่าการเลือกใช้รถยนต์มีผลต่อชีวิตของวัยรุ่นอย่างชัดเจน ผู้ปกครองควรหลีกเลี่ยงการส่งมอบรถเก่าให้ลูกหลาน และหันมาให้ความสำคัญกับรถที่มีเทคโนโลยีช่วยขับขี่แม้จะมีต้นทุนที่สูงกว่า โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของการขับขี่ที่เป็นช่วงเสี่ยงสูงสุดของวัยรุ่น

ข้อเสนอแนะจากผู้วิจัยยังรวมถึงบทบาทของกุมารแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่ควรให้คำแนะนำกับผู้ปกครองเกี่ยวกับการเลือกรถที่ปลอดภัย รวมถึงส่งเสริมการขับขี่ที่มีความรับผิดชอบ เช่น การคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง การไม่ขับรถตอนกลางคืน การไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และการจำกัดจำนวนผู้โดยสารในรถของวัยรุ่น

ในระดับนโยบาย ภาครัฐควรพิจารณามาตรการบังคับตรวจสอบความปลอดภัยของรถยนต์เก่าอย่างสม่ำเสมอทั่วประเทศ และควรมีการสนับสนุนหรือให้สิทธิพิเศษกับครอบครัวที่เลือกซื้อรถที่ปลอดภัยสำหรับวัยรุ่น

สรุป:
งานวิจัยชิ้นนี้ตอกย้ำความสำคัญของการเลือกรถให้กับวัยรุ่น โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีสามารถช่วยชีวิตได้อย่างเป็นรูปธรรม หากครอบครัวหันมาให้ความสำคัญ กับประเด็นนี้มากขึ้น ก็อาจช่วยลดจำนวนวัยรุ่นที่ต้องจบชีวิตบนท้องถนนได้อย่างมีนัยสำคัญ.

แหล่งอ้างอิง:

Insurance Institute for Highway Safety. (2024, May). Vehicle type, age and safety features among young drivers fatally injured in crashes. https://www.iihs.org/