Posted on

ทารกของแม่พิการมีแนวโน้มใช้ห้องฉุกเฉินบ่อยขึ้น: ข้อค้นพบจากแคนาดา

(ภาพประกอบ)

ผลการศึกษาระดับประชากรในแคนาดาพบว่า ทารกที่เกิดจากมารดาที่มีความพิการมีแนวโน้มเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน (Emergency Department: ED) ในช่วงปีแรกของชีวิตสูงกว่าทารกที่เกิดจากมารดาที่ไม่มีความพิการอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่เร่งด่วน (low-acuity visits) ซึ่งสามารถป้องกันได้หากมีการเข้าถึงการดูแลสุขภาพขั้นต้นอย่างเหมาะสม

งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร JAMA Network Open ได้วิเคราะห์ข้อมูลของทารกกว่า 1.5 ล้านคนในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ที่เกิดระหว่างปี 2008 ถึง 2021 โดยพบว่าทารกที่เกิดจากแม่ที่มีความพิการไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย ประสาทสัมผัส หรือสติปัญญา มีอัตราการเข้ารับบริการที่ห้องฉุกเฉินสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ ดังนี้:

  • แม่ที่มีความพิการทางร่างกาย: 46.9% ของทารกเข้าห้องฉุกเฉิน
  • แม่ที่มีความพิการทางประสาทสัมผัส: 45.2%
  • แม่ที่มีความพิการทางสติปัญญาหรือพัฒนาการ: 55.4%
  • แม่ที่มีความพิการหลายด้าน: 51.0%
  • เทียบกับแม่ที่ไม่มีความพิการ: 40.0%

สาเหตุและปัจจัยร่วม

ผู้วิจัยพบว่าทารกในกลุ่มแม่ที่มีความพิการมีแนวโน้มเกิดก่อนกำหนด อยู่ในพื้นที่รายได้น้อย และมีการดูแลก่อนคลอดไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจกระตุ้นให้เกิดปัญหาสุขภาพในทารก ส่งผลให้ครอบครัวต้องพึ่งพาการรักษาฉุกเฉินแทนการดูแลแบบป้องกัน

ถึงแม้ลักษณะของการเข้ารับบริการ เช่น เวลาในการไปโรงพยาบาล หรืออาการที่พบ ไม่ได้แตกต่างจากกลุ่มแม่ที่ไม่มีความพิการ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือทารกในกลุ่มนี้มักไม่ได้รับการติดตามผลจากแพทย์ประจำภายใน 7 วันหลังจากเข้ารับบริการฉุกเฉิน และมีโอกาสกลับมาใช้บริการซ้ำสูงกว่า

ข้อเสนอเชิงระบบ

ผู้วิจัยเสนอว่าระบบสาธารณสุขควรมีการเตรียมพร้อมตั้งแต่ก่อนคลอด เช่น:

  • ให้ความรู้แม่เกี่ยวกับอาการที่ควรพบแพทย์และการดูแลทารกเบื้องต้น
  • สนับสนุนการเข้าถึงคลินิกปฐมภูมิหรือแพทย์เด็กหลังคลอด
  • พัฒนาความสามารถของบุคลากรในห้องฉุกเฉินให้สามารถดูแลครอบครัวที่มีแม่พิการอย่างเข้าใจและเป็นมิตร
  • อาจพิจารณาการให้การดูแลที่บ้านหรือการอยู่โรงพยาบาลนานขึ้นเล็กน้อยหลังคลอดในบางกรณี

บทสรุป:

ทารกที่เกิดจากแม่พิการเผชิญความเสี่ยงในการใช้บริการห้องฉุกเฉินมากกว่ากลุ่มทั่วไปอย่างชัดเจน แม้ในระบบสาธารณสุขที่ครอบคลุมอย่างแคนาดา งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการออกแบบนโยบายที่ตอบโจทย์กลุ่มเปราะบางนี้ ไม่เพียงเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจรุนแรงขึ้น แต่เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ.

แหล่งที่มา:

Brown, H.K., et al. (2024). Maternal Disability and Emergency Department Use for Infants. JAMA Network Open. https://jamanetwork.com/journals/jamanetworkopen/fullarticle/2818246