Posted on

ดูแลแมวอย่างไรไม่ให้เครียด? รวมข้อผิดพลาดที่เจ้าของแมวต้องรู้

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีพฤติกรรมและลักษณะนิสัยเฉพาะตัว พวกมันเป็นอิสระ มีโลกส่วนตัวสูง และบางครั้งอาจดูเหมือนไม่สนใจเจ้าของ แต่จริง ๆ แล้ว แมวมีความรู้สึกและความต้องการที่ละเอียดอ่อนมาก เจ้าของแมวจำนวนมากอาจไม่รู้ตัวว่าพฤติกรรมบางอย่างของตนส่งผลให้แมวรู้สึกเครียดหรือไม่พอใจ ดังนั้น การเข้าใจพฤติกรรมที่แมวไม่ชอบจะช่วยให้เจ้าของสามารถดูแลและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับสัตว์เลี้ยงของตนได้ บทความนี้จะกล่าวถึงพฤติกรรมของเจ้าของที่มักทำให้แมวไม่พอใจ และแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้แมวมีความสุขและรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

1. การบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ

หนึ่งในพฤติกรรมที่ทำให้แมวรู้สึกอึดอัดมากที่สุดคือการบังคับให้ทำสิ่งที่พวกมันไม่ต้องการ เช่น การอุ้มแมวทั้งที่มันยังไม่พร้อม การจับตัวมันในขณะที่มันพยายามหนี หรือการกอดรัดอย่างแน่นหนา

แนวทางที่ถูกต้อง:

  • ให้เวลาแมวทำความคุ้นเคยกับเจ้าของเอง
  • หากต้องการอุ้มแมว ให้ดูปฏิกิริยาของมันก่อน หากแมวรู้สึกผ่อนคลายค่อยอุ้ม
  • ใช้วิธีล่อด้วยขนม หรือของเล่นเพื่อให้แมวเข้าหาเอง

2. เสียงดังและการตะโกนใส่แมว

แมวเป็นสัตว์ที่ไวต่อเสียงมาก การตะโกน ดุด่า หรือเสียงดังที่เกิดขึ้นรอบตัวอาจทำให้แมวรู้สึกเครียดและกลัว

แนวทางที่ถูกต้อง:

  • พยายามพูดกับแมวด้วยเสียงนุ่มนวลและสงบ
  • หลีกเลี่ยงการทำเสียงดังขณะเล่นกับแมว
  • หากแมวทำผิดพลาด ใช้วิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการให้รางวัลมากกว่าการดุด่า

3. การรบกวนเวลาพักผ่อนของแมว

แมวเป็นสัตว์ที่ต้องการการนอนหลับและพักผ่อนเป็นอย่างมาก พวกมันสามารถนอนได้ถึง 12-16 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้น การรบกวนแมวขณะนอนหลับจะทำให้พวกมันหงุดหงิดและไม่พอใจ

แนวทางที่ถูกต้อง:

  • หลีกเลี่ยงการรบกวนแมวในช่วงที่มันกำลังหลับ
  • จัดเตรียมที่นอนที่เงียบสงบและปลอดภัยให้แมว
  • หากต้องการเล่นกับแมว รอให้มันตื่นเองแล้วใช้ของเล่นดึงดูดความสนใจ

4. การทำให้แมวรู้สึกไม่ปลอดภัย

แมวเป็นสัตว์ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ของตนเอง หากมีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง เช่น การย้ายบ้าน การนำสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้ามา หรือแม้แต่การเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ อาจทำให้แมวรู้สึกเครียด

แนวทางที่ถูกต้อง:

  • หากต้องย้ายบ้าน ควรให้แมวมีเวลาปรับตัว และจัดมุมที่คุ้นเคยให้แมว
  • เมื่อมีสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ ให้แนะนำพวกมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • จัดให้แมวมีพื้นที่ส่วนตัวที่สามารถหลบซ่อนหรือพักผ่อนได้อย่างปลอดภัย

5. การทำความสะอาดกระบะทรายไม่เพียงพอ

แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมาก การที่กระบะทรายไม่สะอาดอาจทำให้แมวเลือกที่จะไม่ใช้กระบะทราย หรือหาที่อื่นขับถ่ายแทน

แนวทางที่ถูกต้อง:

  • ควรทำความสะอาดกระบะทรายอย่างน้อยวันละครั้ง
  • ใช้ทรายที่แมวชื่นชอบและเปลี่ยนเป็นประจำ
  • วางกระบะทรายในที่ที่เงียบสงบและไม่มีสิ่งรบกวน

6. การสัมผัสในจุดที่แมวไม่ชอบ

แมวมีจุดที่พวกมันไม่ต้องการให้สัมผัส เช่น ท้อง หาง หรืออุ้งเท้า บางครั้งเจ้าของอาจคิดว่าแมวชอบให้ลูบที่จุดเหล่านี้ แต่จริง ๆ แล้วอาจทำให้แมวรู้สึกอึดอัด

แนวทางที่ถูกต้อง:

  • สังเกตปฏิกิริยาของแมวเมื่อสัมผัส
  • ลูบเฉพาะจุดที่แมวชอบ เช่น ใต้คาง ข้างแก้ม หรือระหว่างหู
  • หลีกเลี่ยงการลูบจุดที่ทำให้แมวรู้สึกไม่สบายตัว

7. การให้อาหารไม่เหมาะสม

แมวต้องการอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพ การให้อาหารที่มีส่วนผสมที่ไม่ดี หรือให้อาหารที่มีปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลต่อสุขภาพของแมวในระยะยาว

แนวทางที่ถูกต้อง:

  • เลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมกับแมว
  • หลีกเลี่ยงการให้อาหารที่มีโซเดียมสูง หรืออาหารของมนุษย์
  • ให้แมวกินตามเวลาที่กำหนด เพื่อป้องกันภาวะอ้วน

สรุป

การเลี้ยงแมวอย่างถูกต้องไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่ความรักของเจ้าของเท่านั้น แต่ต้องอาศัยความเข้าใจธรรมชาติและพฤติกรรมของแมวด้วย เจ้าของที่เข้าใจสิ่งที่แมวไม่ชอบ จะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้แมวรู้สึกปลอดภัยและมีความสุขได้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเจ้าของให้เหมาะสมจะช่วยให้แมวและเจ้าของสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ในระยะยาว.

References :

  1. Bradshaw, J. (2013). Cat Sense: How the New Feline Science Can Make You a Better Friend to Your Pet. Basic Books.
  2. Turner, D. C., & Bateson, P. (Eds.). (2013). The Domestic Cat: The Biology of its Behaviour. Cambridge University Press.
  3. Ellis, S., & Wells, D. (2010). The influence of owner characteristics on the behaviour of their cats. Applied Animal Behaviour Science, 123(1-2), 42-50.
  4. McGowan, R. T., & Ellis, J. J. (2018). The importance of behavioral enrichment for cats in home environments. Journal of Feline Medicine and Surgery, 20(2), 104-113.