Posted on

งานวิจัยพบว่าโปรไบโอติกช่วยลดระยะเวลามีไข้ในเด็กที่ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน

มิลาน, อิตาลี – ผลการศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มที่ดำเนินการโดยคณะนักวิจัยจากโรงพยาบาล Ca’ Granda Ospedale Maggiore Policlinico ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี พบว่าโปรไบโอติกชนิดผสมสามารถช่วยลดระยะเวลามีไข้ในเด็กที่ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน (URTIs) ได้อย่างมีนัยสำคัญ

โปรไบโอติกมีผลต่อไข้ของเด็กอย่างไร?

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรไบโอติกที่ประกอบด้วย Bifidobacterium breve M-16V, Bifidobacterium lactis HN019, และ Lactobacillus rhamnosus HN001 ต่อระยะเวลามีไข้ของเด็กที่ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน การศึกษาได้ดำเนินการระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ถึง 20 มิถุนายน 2566 ในกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 28 วัน ถึง 4 ปี ที่เข้ารับการรักษาในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลดังกล่าว

การออกแบบการศึกษา

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาแบบสุ่ม ปกปิดทั้งสามฝ่าย และมีกลุ่มควบคุม โดยเด็กที่เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 128 คน ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่

  • กลุ่มที่ได้รับโปรไบโอติก: ได้รับโปรไบโอติกขนาด 0.5 มล. ต่อวัน เป็นเวลา 14 วัน
  • กลุ่มที่ได้รับยาหลอก: ได้รับยาหลอกที่มีลักษณะเหมือนโปรไบโอติก แต่ไม่มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิต

ผลการศึกษา

ผลการศึกษาพบว่าเด็กที่ได้รับโปรไบโอติกมีระยะเวลามีไข้เฉลี่ย 3 วัน (ช่วงค่ากลางระหว่าง 2-4 วัน) ซึ่งสั้นกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอก ซึ่งมีระยะเวลามีไข้เฉลี่ย 5 วัน (ช่วงค่ากลางระหว่าง 4-6 วัน) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P < 0.001)

อัตราความเสี่ยงที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted Risk Ratio, ARR) เท่ากับ 0.64 (ช่วงความเชื่อมั่น 95%: 0.51-0.80) แสดงให้เห็นว่าการใช้โปรไบโอติกสามารถลดระยะเวลามีไข้ได้ประมาณ 2 วัน เมื่อเทียบกับยาหลอก

ความปลอดภัยของโปรไบโอติก

งานวิจัยยังพบว่าไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้โปรไบโอติก อาการข้างเคียงที่พบมีอัตราที่ใกล้เคียงกันระหว่างกลุ่มที่ได้รับโปรไบโอติกและกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ได้แก่ ท้องผูก (16% เทียบกับ 12%) และปวดท้อง (8% เทียบกับ 4%) ซึ่งไม่มีความแตกต่างทางสถิติ

บทสรุปของการศึกษา

ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าโปรไบโอติกสามารถเป็นแนวทางเสริมในการรักษาไข้ในเด็กที่มีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน โดยสามารถลดระยะเวลามีไข้ได้ประมาณ 2 วัน เมื่อเทียบกับการไม่ได้รับโปรไบโอติก ทั้งนี้ ผลการศึกษายังแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยในการใช้โปรไบโอติกในเด็ก ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยเด็กในอนาคต.

Reference : JAMA Network Open Journal.