Posted on

ค้นพบเชื้อราสายพันธุ์ใหม่ที่เปลี่ยนแมงมุมถ้ำให้เป็น ‘ซอมบี้’

นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปค้นพบเชื้อราสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแมงมุมที่อาศัยอยู่ในถ้ำให้กลายเป็น ‘ซอมบี้’ โดยเชื้อรานี้จะล่อให้แมงมุมออกจากใยของมัน ก่อนจะทำให้แมงมุมเสียชีวิต และใช้ร่างของมันในการแพร่กระจายสปอร์ เชื้อราสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกตั้งชื่อว่า Gibellula attenboroughii มีลักษณะการทำงานคล้ายกับเชื้อราที่เปลี่ยนมดเป็นซอมบี้ โดยดูเหมือนว่าจะสามารถควบคุมพฤติกรรมของแมงมุมให้เคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการแพร่กระจายของเชื้อราได้ อย่างไรก็ตาม วิธีที่เชื้อรานี้ส่งผลกระทบต่อสมองของแมงมุมยังคงเป็นปริศนา และยังมีคำถามอีกมากมายเกี่ยวกับเส้นทางวิวัฒนาการและผลกระทบทางนิเวศวิทยาของมัน

การค้นพบเชื้อราซอมบี้แมงมุม

เชื้อราสายพันธุ์นี้อยู่ในกลุ่มของเชื้อราที่ติดเชื้อเฉพาะในแมงมุมเท่านั้น ก่อนหน้านี้เคยมีการสังเกตเชื้อรา Gibellula aurea ในบราซิล ซึ่งอาจสามารถควบคุมให้แมงมุมเคลื่อนที่ไปยังใต้ใบไม้ก่อนตาย แต่ลักษณะพฤติกรรมที่เห็นได้ชัดยังไม่เด่นชัดเท่ากับเชื้อรา Gibellula attenboroughii ที่พบในแมงมุมถ้ำ

นักวิทยาศาสตร์พบว่า เชื้อรานี้สามารถติดเชื้อในแมงมุมสองสายพันธุ์คือ Metellina merianae และ Meta menardi ซึ่งเป็นแมงมุมที่สร้างใยอยู่ในถ้ำของยุโรป การพบเชื้อรา G. attenboroughii ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2021 เมื่อลูกเรือถ่ายทำรายการโทรทัศน์พบเชื้อราบนแมงมุมภายในห้องเก็บดินปืนร้างที่ Castle Espie Wetland Centre ในไอร์แลนด์เหนือ ทีมงานสังเกตว่าแมงมุมมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ มันเคลื่อนที่ออกจากใยของตัวเองไปยังพื้นที่เปิดก่อนจะเสียชีวิต ซึ่งบ่งบอกว่าเชื้อราอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของแมงมุม หลังจากนั้น นักวิจัยพบแมงมุมที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในถ้ำต่าง ๆ ทั่วไอร์แลนด์และไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณที่เปิดโล่งของเพดานหรือผนังถ้ำ

ปริศนาของเชื้อราและผลกระทบทางนิเวศวิทยา

นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเชื้อรานี้ทำงานอย่างไรภายในร่างกายของแมงมุม อย่างไรก็ตาม มีการตั้งสมมุติฐานว่า เชื้อราสามารถล่อให้แมงมุมออกจากรังของมันไปยังพื้นที่ที่ลมพัดผ่านได้ง่าย ซึ่งช่วยให้สปอร์ของเชื้อราแพร่กระจายได้ดีขึ้น

นักวิจัยยังไม่สามารถระบุได้ว่าเชื้อรานี้ผลิตสารเมตาโบไลต์ชนิดใดที่มีผลต่อสมองของแมงมุม การศึกษาต่อไปจะมุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจผลกระทบทางนิเวศวิทยาของเชื้อรา แต่จากข้อมูลที่มีอยู่ นักวิทยาศาสตร์ไม่คิดว่าเชื้อรานี้จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชากรแมงมุม เชื้อราต่าง ๆ มีการวิวัฒนาการมานานกว่าร้อยล้านปี และสามารถอยู่ร่วมกับแมงมุมและแมลงอื่น ๆ ได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อระบบนิเวศ เชื้อราซอมบี้ เช่น เชื้อราที่ติดเชื้อมด ยังมีบทบาทในการควบคุมประชากรของแมลงบางชนิด ทำให้เกิดความสมดุลในธรรมชาติ

โลกของเชื้อราที่ยังรอการค้นพบ

ปัจจุบันมีเชื้อราที่ถูกระบุสายพันธุ์แล้วประมาณ 150,000 สายพันธุ์ แต่คาดว่าจำนวนดังกล่าวเป็นเพียง 5% ของจำนวนเชื้อราทั้งหมดที่มีอยู่บนโลก การศึกษานี้ช่วยกระตุ้นให้นักวิทยาศาสตร์ทำการสำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหลากหลายของเชื้อรา นักวิจัยยังพบหลักฐานว่าเชื้อราบางชนิดสามารถกินเชื้อราซอมบี้ที่ติดแมงมุมได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแมงมุมเหล่านี้เป็นแหล่งอาหารสำคัญสำหรับเชื้อราอื่น ๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดระบบนิเวศที่ซับซ้อนและน่าทึ่งมากขึ้น

ไม่มีอันตรายต่อมนุษย์

แนวคิดของเชื้อราซอมบี้อาจฟังดูเหมือนเรื่องราวจากภาพยนตร์ไซไฟ เช่น ซีรีส์ The Last of Us ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเชื้อราซอมบี้ที่ติดเชื้อมด อย่างไรก็ตาม เชื้อรา Gibellula attenboroughii ติดเชื้อเฉพาะแมงมุมเท่านั้น และไม่มีความสามารถในการแพร่เชื้อมาสู่มนุษย์ นักวิจัยระบุว่า สำหรับเชื้อราจะสามารถติดเชื้อมนุษย์ได้ จะต้องสามารถทนต่ออุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ และสามารถหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันของเรา ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากสำหรับเชื้อรากลุ่มนี้

การเข้าใจเชื้อราเหล่านี้ให้ดีขึ้นอาจนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในด้านการเกษตร หรือแม้กระทั่งการแพทย์สำหรับมนุษย์ เช่น การศึกษาเกี่ยวกับสารเมตาโบไลต์ที่เชื้อราผลิตขึ้นในสมองของแมงมุม อาจเปิดประตูสู่แนวทางใหม่ในการรักษาโรคทางสมอง เช่น อัลไซเมอร์ และโรคเสื่อมสภาพของสมองอื่น ๆ การค้นพบเชื้อรา Gibellula attenboroughii เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความหลากหลายอันน่าทึ่งของสิ่งมีชีวิตบนโลก ซึ่งยังมีอีกมากที่รอการศึกษา เชื้อรานี้ไม่เพียงแต่ทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมของเชื้อรากับแมงมุมมากขึ้น แต่ยังอาจนำไปสู่การค้นพบที่มีประโยชน์ต่อวงการวิทยาศาสตร์ในอนาคตอีกด้วย.

References :

  1. วารสารวิชาการ Fungal Systematics and Evolution
    • บทความต้นฉบับเกี่ยวกับเชื้อรา Gibellula attenboroughii
      • วันที่เผยแพร่: มกราคม 2024
  2. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งเดนมาร์ก (Natural History Museum of Denmark)
    • นักวิจัย: ดร. João Araújo และทีมงาน
  3. Royal Botanic Gardens, Kew
    • ข้อมูลเกี่ยวกับวิวัฒนาการของเชื้อราและผลกระทบทางนิเวศวิทยา