ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในการผลิตฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ซึ่งทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย การขาดธาตุเหล็กสามารถนำไปสู่ภาวะโลหิตจาง ซึ่งมีอาการ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และซีด บทความนี้จะนำเสนอเกี่ยวกับอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงและคุณประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งเป็นข้อมูลที่เผยแพร่โดยองค์การอนามัยโลก(World Health Organization-WHO)
อาหารที่มีธาตุเหล็กสูงมีชนิดใดบ้าง?
- เนื้อแดง
เนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อแกะ เป็นแหล่งธาตุเหล็กที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อวัวตับ เนื้อสันใน และเนื้อสันนอก เนื้อแดงมีธาตุเหล็กชนิดฮีม (heme iron) ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายกว่าธาตุเหล็กชนิดที่ไม่ใช่ฮีม (non-heme iron) - อาหารทะเล
อาหารทะเล เช่น หอยนางรม หอยแมลงภู่ และปลาทูน่า เป็นแหล่งธาตุเหล็กที่ดีเยี่ยม หอยนางรมมีธาตุเหล็กสูงเป็นพิเศษ โดยมีธาตุเหล็กประมาณ 18 มิลลิกรัมต่อหอยนางรม 100 กรัม - ผักใบเขียว
ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า และบร็อคโคลี่ มีธาตุเหล็กชนิดที่ไม่ใช่ฮีมในปริมาณสูง อย่างไรก็ตาม ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กจากผักใบเขียวได้น้อยกว่าจากเนื้อแดง - ถั่วและเมล็ดพืช
ถั่วและเมล็ดพืช เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเลนทิล ถั่วแดง และเมล็ดฟักทอง มีธาตุเหล็กชนิดที่ไม่ใช่ฮีมในปริมาณสูง ถั่วเหลืองเป็นแหล่งธาตุเหล็กที่ดีเยี่ยม โดยมีธาตุเหล็กประมาณ 8 มิลลิกรัมต่อถั่วเหลือง 100 กรัม - ธัญพืชเสริมธาตุเหล็ก
ธัญพืชเสริมธาตุเหล็ก เช่น ข้าวโอ๊ต ขนมปัง และซีเรียล เป็นแหล่งธาตุเหล็กที่สะดวกและง่ายต่อการรับประทาน ธัญพืชเหล่านี้มักเสริมธาตุเหล็กชนิดที่ไม่ใช่ฮีม ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้น้อยกว่าธาตุเหล็กชนิดฮีม
คุณประโยชน์ของธาตุเหล็กที่มีต่อร่างกาย
- ป้องกันภาวะโลหิตจาง
ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนในเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย การขาดธาตุเหล็กสามารถนำไปสู่ภาวะโลหิตจาง ซึ่งมีอาการเช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และซีด - เพิ่มพลังงาน
ธาตุเหล็กช่วยเพิ่มพลังงานโดยการขนส่งออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย ออกซิเจนจำเป็นสำหรับการเผาผลาญอาหารและการผลิตพลังงาน การขาดธาตุเหล็กสามารถนำไปสู่ความอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า - เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ธาตุเหล็กมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ธาตุเหล็กช่วยในการผลิตเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นเซลล์ที่ต่อสู้กับการติดเชื้อ การขาดธาตุเหล็กสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ - พัฒนาการทางปัญญา
ธาตุเหล็กมีความสำคัญต่อการพัฒนาทางปัญญาในเด็ก ธาตุเหล็กช่วยในการผลิตไมอีลิน ซึ่งเป็นสารที่ห่อหุ้มเส้นใยประสาทและช่วยให้สัญญาณประสาทเดินทางได้เร็วขึ้น การขาดธาตุเหล็กในเด็กสามารถนำไปสู่ปัญหาการเรียนรู้และพัฒนาการทางปัญญา - ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
ธาตุเหล็กอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ธาตุเหล็กช่วยในการผลิตเฮโมโกลบิน ซึ่งช่วยขนส่งออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย รวมถึงเซลล์ในหัวใจ การขาดธาตุเหล็กสามารถนำไปสู่การขาดออกซิเจนในหัวใจ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ
ข้อควรระวัง
- การรับประทานธาตุเหล็กมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และท้องผูก
- ผู้ที่มีภาวะธาตุเหล็กเกิน (hemochromatosis) ไม่ควรบริโภคอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง
- การรับประทานธาตุเหล็กพร้อมกับแคลเซียมหรือกาแฟอาจลดการดูดซึมธาตุเหล็กได้
- หากมีอาการของภาวะโลหิตจาง เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และซีด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในการผลิตฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ซึ่งทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย การรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงจะสามารถช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง เพิ่มพลังงาน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน พัฒนาการทางปัญญา และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานธาตุเหล็กในปริมาณที่พอเหมาะและปรึกษาแพทย์หากมีอาการของภาวะโลหิตจาง
แหล่งอ้างอิง
- National Institutes of Health: Iron
- World Health Organization: Iron deficiency anaemia
- Academy of Nutrition and Dietetics: Iron
Brand’s ซุปไก่สกัดผสมวิตามินบีคอมเพล็กซ์และธาตุเหล็ก 60 เม็ด(เข้าดูโปรโมชั่น)
AMARIT ธาตุเหล็ก 60 แคปซูล(เข้าดูโปรโมชั่น)