ความกังวลของชาวยูเครนต่อข้อตกลงหยุดยิง: ข้อแลกเปลี่ยนและคำสัญญาที่ว่างเปล่า

สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงดำเนินต่อไปโดยมีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ในขณะที่ประชาคมระหว่างประเทศพยายามหาหนทางยุติความขัดแย้ง ล่าสุด อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน อย่างไรก็ตาม ชาวยูเครนจำนวนมากกังวลว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจเป็นเพียงการยอมจำนนต่อรัสเซียและเต็มไปด้วยเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์แก่มอสโก

การสูญเสียเสรีภาพภายใต้การยึดครองของรัสเซีย

ตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายของการปล่อยให้ดินแดนของยูเครนตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียคือกรณีของ ไอรีนา ดานิโลวิช นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและพยาบาล ซึ่งถูกจับกุมในไครเมียเมื่อปี 2022 และถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 7 ปี โดยเธอเปิดเผยว่าถูกทรมานระหว่างถูกคุมขัง ปัจจุบันเธอถูกส่งตัวไปยังเรือนจำหญิงที่มีชื่อเสียงในด้านความโหดร้ายในเซเลโนกุมสค์ ทางตอนใต้ของรัสเซีย สภาพความเป็นอยู่ของเธอเลวร้ายลงทุกวัน ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของชีวิตภายใต้การยึดครองของรัสเซีย

ทัศนะของชาวยูเครนต่อการเจรจา

ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวถึงการสนทนาระหว่างทรัมป์และปูตินว่า “ยูเครนจะไม่ยอมรับข้อตกลงสันติภาพใด ๆ ที่ไม่มีส่วนร่วมของยูเครน” โดยชาวยูเครนส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยกับผู้นำของพวกเขา นาซาร์ โวโลเชนโก นักศึกษาจากเคียฟ กล่าวว่า “การเจรจาที่นำไปสู่การสูญเสียดินแดนของยูเครนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เราต้องทวงคืนอธิปไตยของเรา”

ความซ้ำรอยทางประวัติศาสตร์

ไครเมียถูกผนวกเข้ากับรัสเซียอย่างผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2014 ตั้งแต่นั้นมา รัสเซียได้ใช้นโยบายกดขี่ข่มเหงผู้ไม่เห็นด้วยและพยายามกลืนกินอัตลักษณ์ยูเครน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่รัสเซียได้ใช้ในดินแดนอื่น ๆ ที่ตนยึดครองเช่นกัน มักซิม วิชชีค ทนายความจากองค์กร Global Rights Compliance กล่าวว่าการยึดครองไครเมียกลายเป็น “ต้นแบบ” ของนโยบายรัสเซียที่ถูกนำไปใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ที่ถูกยึดครอง

อนาคตของยูเครนและโลก

ปูตินได้แสดงความต้องการอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการควบคุมทั้งแคว้นโดเนตสค์และลูฮันสค์ ชาวยูเครนกังวลว่าแม้หากมีข้อตกลงหยุดยิง รัสเซียก็อาจละเมิดข้อตกลงและเริ่มต้นสงครามครั้งใหม่ในอนาคต ดังนั้น ชาวยูเครนจึงมองว่าการเจรจาสันติภาพที่ไม่ได้มุ่งคืนความยุติธรรมและอธิปไตยของพวกเขา อาจเป็นเพียงกลลวงที่ทำให้รัสเซียได้ในสิ่งที่ต้องการ และนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่ในภายภาคหน้า.