Posted on

การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรหรือ Tariffs ต่อสินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยกำหนดอัตราภาษีพื้นฐานที่ 10% สำหรับสินค้านำเข้าทุกประเภท และเพิ่มอัตราภาษีที่สูงขึ้นสำหรับบางประเทศที่สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้า ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้​

ความหมายและหลักการของภาษีศุลกากร

ภาษีศุลกากร (Tariffs) คือ ภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าหรือส่งออก โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ เพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล และควบคุมปริมาณการค้าระหว่างประเทศ การเรียกเก็บภาษีศุลกากรสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่​

  1. ภาษีตามมูลค่า (Ad Valorem Tariff): เป็นการเก็บภาษีตามเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าสินค้า เช่น 10% ของมูลค่าสินค้านำเข้า​
  2. ภาษีตามปริมาณ (Specific Tariff): เป็นการเก็บภาษีตามจำนวนหรือปริมาณของสินค้า เช่น เก็บภาษี 5 บาทต่อกิโลกรัมของสินค้านำเข้า​

มาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ในปี 2568

ในการประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กำหนดอัตราภาษีศุลกากรใหม่ดังนี้:​

  • อัตราภาษีพื้นฐาน 10%: สำหรับสินค้านำเข้าทุกประเภทจากทุกประเทศ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2568​
  • อัตราภาษีเพิ่มเติม (Reciprocal Tariffs): สำหรับประเทศที่สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้า โดยมีการกำหนดอัตราภาษีที่สูงขึ้น เช่น:​
    • จีน: เพิ่มภาษีอีก 34% ทำให้อัตราภาษีรวมเป็น 54% ​
    • สหภาพยุโรป: เพิ่มภาษีอีก 20%​
    • ญี่ปุ่น: เพิ่มภาษีอีก 24%​
    • ไต้หวัน: เพิ่มภาษีอีก 32%​
    • อินเดีย: เพิ่มภาษีอีก 26%​

สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) มีการกำหนดอัตราภาษีเพิ่มเติมดังนี้:​

  • กัมพูชา: 49%​
  • ลาว: 48%​
  • เวียดนาม: 46%​
  • เมียนมา: 44%​
  • ไทย: 36%​
  • อินโดนีเซีย: 32%​
  • มาเลเซีย: 24%​
  • ฟิลิปปินส์: 17%​
  • สิงคโปร์: 10%​

ผลกระทบต่อประเทศไทย

การขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในหลายด้าน ดังนี้:​

  1. การส่งออกลดลง: สินค้าส่งออกหลักของไทย เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอาหารทะเล อาจเผชิญกับความต้องการที่ลดลงในตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจากภาษีที่สูงขึ้น​
  2. การลงทุนชะลอตัว: นักลงทุนอาจลังเลในการลงทุนในอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า​
  3. การปรับโครงสร้างการผลิต: ผู้ผลิตไทยอาจต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตหรือหาตลาดใหม่เพื่อชดเชยการสูญเสียตลาดในสหรัฐฯ​
  4. ผลกระทบต่อผู้บริโภค: ราคาสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคไทยต้องจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับสินค้านำเข้าเหล่านั้น.

References :

  1. MarketWatch. (2025). Trump’s ‘Liberation Day’ tariffs to come after stock markets close as taxes on imports stack up. Retrieved from https://www.marketwatch.com
  2. The White House. (2025). Statement by President Trump on Trade Tariffs and Economic Protection Policies. Retrieved from https://www.whitehouse.gov
  3. U.S. Trade Representative (USTR). (2025). Tariff Policy Updates and Global Trade Impacts. Retrieved from https://ustr.gov
  4. World Trade Organization (WTO). (2025). Implications of Tariff Increases on Global Trade. Retrieved from https://www.wto.org